วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[FIC] Passionate: 2nd ☆ Myungyeol


Passionate
2nd - Passion

Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, Romantic Drama
Author: khanunys







-passionate-





You make me falling in passion.






อีซองยอลเดินตามหลังคิมซองกยูเข้ามาภายในที่อโคจรแห่งหนึ่ง


นัยน์ตาสีน้ำตาลเปล่งประกายระยิบระยับล้อกับแสงไฟรอบกาย ในขณะที่เจ้าตัวกำลังใช้มันกวาดมองไปรอบๆเพื่อมองหาคนที่ถูกใจ ก่อนที่สายตาของอีซองยอลจะไปหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งซึ่งทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้นมา


หนุ่มน้อยร่างบางที่นั่งอยู่คนเดียวที่เคาน์เตอร์บาร์


คนตัวสูงเหลือบมองหนุ่มน้อยคนนั้นเป็นระยะในขณะที่ขาก็ยังคงก้าวตามหลังซองกยูไป อีซองยอลหมายมั่นปั้นมืออยู่ภายในใจว่าถ้าหากคืนนี้เขาไม่สามารถทำให้มยองซูเป็นของเล่นของเขาได้ หนุ่มน้อยคนนั้นจะต้องกลายเป็นเหยื่อของเขาในคืนนี้ เพียงแค่คิดซองยอลก็อดไม่ได้ที่จะแลบลิ้มเลียริมฝีปากของตนเองที่แห้งผากขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่คนหน้าหวานจะยื่นมือไปสะกิดคนเป็นพี่ที่เดินนำอยู่ด้านหน้า


“พี่ซองกยู”


“อะไรอีกล่ะ” เจ้าของชื่อหันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจไม่แพ้หน้าตาที่แสดงสีหน้าว่ากำลังเหนื่อยใจกับอีซองยอลอย่างเห็นได้ชัด


“คนนั้นน่ารักเนอะ” ซองยอลว่าพลางพยักเพยิดไปยังเด็กหนุ่มที่นั่งดื่มค็อกเทลอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ดวงตากลมเปล่งประกายระยิบระยับเป็นการบอกว่าเจ้าตัวกำลังให้ความสนใจเด็กหนุ่มคนนั้นจนซองกยูอยากจะยกมือขึ้นมาตกหน้าผากตนเองเพื่อระบายความกลุ้มใจ


ใครเป็นคนแนะนำให้อีซองยอลไปเรียนต่อในประเทศที่เปิดกว้างในเรื่องเพศกันนะ คิมซองกยูอยากจะไปเอาเลือดหัวมันออกขึ้นมาตงิดๆ แต่คิดไปคิดมาแล้วมันก็ไม่ต่างจากการเขาทำร้ายตัวเองหรอก ในเมื่อคนที่ช่วยแนะนำช่องทางการศึกษาต่อเฉพาะด้านให้กับอีซองยอลคือคิมซองกยู


“เลือกเอา ระหว่างเด็กคนนี้กับมยองซู” ชั่ววูบหนึ่งซองกยูเฉลียวใจขึ้นมาว่า ถ้าหากอีซองยอลเลือกที่จะเล่นกับเด็กคนนั้น ปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากการเล่นกับคิมมยองซูก็จะหมดไป ฉะนั้นคิมซองกยูจึงทำได้เพียงภาวนาอยู่ในใจของตนเองให้ซองยอลเลือกเด็กหนุ่มคนนั้นไปเสีย


แต่ดูท่าว่าเขาจะทำบุญมาน้อยเกินไป


“โธ่พี่ ก็ต้องมยองซูอยู่แล้วสิ” ซองยอลตอบพลลางยกยิ้มร่า พลางเอ่ยเร่งเขาขึ้นมาทันที “ไปกันเถอะ เดี๋ยวมยองซูก็รอนานหรอกครับ”


คิมซองกยูทำได้เพียงถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับปัญหาที่เขาคาดการณ์ว่ามันกำลังจะเกิดในไม่ช้า แต่ถึงกระนั้นหนุ่มรุ่นพี่ก็ยังคงเดินนำอีซองยอลไปเจอกับว่าที่ของเล่นที่เจ้าตัวปรารถนามากที่สุดในขณะนี้


โซฟาตัวใหญ่ของโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงมุมวีไอพีของร้านถูกจับจองด้วยคิมมยองซูและสาวสวยอีกสองสามคนที่กำลังพยายามเอาอกเอาใจคนหน้าหล่อที่นั่งตีหน้านิ่งให้หญิงสาวๆเหล่านั้นลูบไล้ไปตามร่างกาย ภาพที่เห็นทำให้ซองยอลอดไม่ได้ที่จะผิวปากออกมาด้วยความถูกใจ


คิมมยองซูเปลี่ยนไปแบบที่เขาคิดจริงๆด้วย


นัยน์ตาสีอัลมอนด์จับจ้องไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนสมัยเรียนม.ปลาย ก่อนจะจินตนาการไปถึงช่วงเวลาหลังจากนี้ สมองเริ่มทำการประมวลผลว่าอีซองยอลควรจะจัดการคิมมยองซูอย่างไร ในเมื่อคนหน้าหล่อนั้นตัวใหญ่กว่าเขาไม่น้อย แต่คิดไปคิดมา หากเขามอมเหล้าอีกฝ่ายจนเมาพับได้ เรื่องเรี่ยวแรงก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสักเท่าไรนัก ซองยอลคงเอาชนะได้ไม่ยาก
รอยยิ้มขบขันปรากฏขึ้นบนดวงหน้ายามที่อีซองยอลทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามของคิมมยองซู จนอดีตประธานนักเรียนต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถามไถ่


“ไม่มีอะไร” ซองยอลเอ่ยตอบสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของมยองซู จากนั้นจึงหันไปให้ความสนใจกับเครื่องดื่มที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า พร้อมกับหันไปต่อบทสนทนากับซองกยูเป็นบางช่วง แต่ถึงกระนั้นดวงตาคู่สวยก็ยังคงเหลือบมองคิมมยองซูเป็นระยะอยู่ดี


เขาจะไม่ปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปหรอก


หลังจากที่นั่งอยู่ท่ามกลางบทสนทนาตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนานได้สักพัก อีกทั้งคิมมยองซูยังดูไม่มีทีท่าว่าจะเมาหรือแม้กระทั่งมึนแต่อย่างใด ต่างจากอีซองยอลที่เริ่มรู้สึกตัวว่าจะไม่ไหวเข้าไปทุกที
“พอก่อนครับพี่ซองกยู” ซองยอลเอ่ยปฏิเสธรุ่นพี่คนสนิทที่ยื่นแก้วซึ่งบรรจุน้ำสีอำพันเอาไว้จนปริ่มขอบแก้วมาให้ “ผมไปห้องน้ำก่อนนะพี่”


คนตัวสูงก้าวเดินไปยังห้องน้ำด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะมั่นคงเท่าไรนัก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้โซไปเซมาจนน่าเป็นห่วง อีซองยอลพยายามเดินหลีกเลี่ยงกลุ่มคนที่เริ่มเมาจนขาดสติจนกระทั่งไปถึงห้องน้ำ ซึ่งดูเหมือนว่าอีซองยอลจะโชคดีไม่น้อย เมื่อดวงตาสีอัลมอนด์สบเข้ากับดวงตากลมโตของเด็กหนุ่มที่เขาหมายมาดเอาไว้ตั้งแต่ตอนเดินเข้ามาในร้านนี้


ซองยอลส่งยิ้มบางเบาให้กับเด็กหนุ่มที่ตีหน้านิ่งกลับคืนมา ก่อนจะลองเอ่ยทักทายไป


“สวัสดีครับ”


ความจริงแล้วการมาเอ่ยทักคนที่ไม่เคยพบหน้าหรือรู้จักกันมาก่อนในห้องน้ำแบบนี้ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเท่าไร หากแต่คำตอบที่ได้รับกลับมากลับทำให้ซองยอลรู้สึกประหลาดใจได้ไม่น้อย


“สวัสดีครับ รุ่นพี่อีซองยอล”


“รู้จักผมด้วยเหรอ” ซองยอลยกมือที่เพิ่งล้างเสร็จขึ้นมาชี้เข้าที่ตัวเอง ใบหน้าเนียนใสแสดงสีหน้าประหลาดใจทั้งๆที่ภายในใจนั้นเข้ารู้สึกราวกับตนเองเป็นต่อ แน่สิ ในเมื่ออีกฝ่ายรู้จักเขาแบบนี้ โอกาสที่เขาจะเก็บเอาอีกคนเป็นของเล่นก็มีสูงขึ้น


“ครับ เราเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน” เด็กหนุ่มคนนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยจนซองยอลอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มให้กับท่าทางเช่นนั้นของอีกฝ่าย คิ้วเรียวถูกยกขึ้นเป็นเชิงถามไถ่ และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสามารถตีคำถามที่เขาส่งไปได้เป็นอย่างดี เมื่อคำตอบที่ได้รับนั้นตรงกับคำถามที่เขานึกถามขึ้นมาในใจพอดี “ผมชื่ออีซองจงครับ”


“ว่าแต่เรามาคนเดียวเหรอ” ซองยอลเอ่ยถามหลังจากนึกขึ้นได้ว่าอีกสองคนที่นั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะก็มาจากโรงเรียนเดียวกัน หากจะหาเรื่องพาเด็กคนนี้เข้าไปนั่งด้วยมันก็คงไม่ใช่เรื่องลำบาก


“ครับ มีเรื่องเครียดๆนิดหน่อยน่ะ”


“งั้นเหรอ” คนตัวสูงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมเอ่ยถาม “งั้นพี่ช่วยรับฟังไหม ไปนั่งด้วยกันสิ”


“ไม่ดีกว่าครับ” ซองจงเอ่ยปฏิเสธพลางกดยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นทำให้ซองยอลต้องมองอย่างเผลอไผล เพราะใบหน้าที่เรียบเฉยในตอนแรกกลับดูละมุนละไมยิ่งกว่าเดิมยามที่มีรอยยิ้มมาแต่งแต้มอยู่บนใบหน้านั้น เพียงเท่านั้นก็ทำให้ความคิดมากมายลอยเข้ามาภายในหัวของอีซองยอยลได้อย่างไม่ยากเย็น โดยเฉพาะความคิดที่ว่า เด็กหนุ่มตรงหน้าเขานี้เหมาะสมที่จะเป็นของเล่นของเขาอีกคนหนึ่ง


“ไม่เอาจริงเหรอ” ซองยอลถามย้ำ


“ครับ” ซองจงตอบกลับมาอย่างหนักแน่น ในขณะที่ซองยอลกำลังคิดหาทางหนีทีไล่


เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาจะมีโอกาสได้เจอคนตรงหน้าอีกเมื่อไร หากเสียโอกาสตรงนี้ไปมันอาจจะกลายเป็นว่าเขาต้องเสียโอกาสเช่นนี้ไปเกือบตลอด


“งั้น...” คนตัวสูงลากเสียงยาว “เอาเบอร์พี่ไปก็แล้วกัน มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ พี่จะช่วยเท่าที่ช่วยได้”


“พี่ใจดีจังเลยนะครับ” เด็กหนุ่มรุ่นน้องพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้เขาอย่างน่ารัก


“ก็รุ่นน้องทั้งคนนี่นะ” ซองยอลตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม มือเรียวควานหากระเป๋าบัตรที่ควรจะอยู่ในกระเป๋ากางเกงทว่ากลับหาไม่เจอ หนุ่มหน้าหวานจึงหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาแทน “พี่ไม่ได้เอานามบัตรมา ถ้ายังไงใช้โทรศัพท์พี่โทรเข้าหานายก็แล้วกัน”
จากนั้นอีซองยอลจึงยืนมองเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ทำตามคำพูดของเขาด้วยใบหน้าที่ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแสนอ่อนโยนในทันทีที่อีซองจงเงยหน้าขึ้นมา


“ขอบคุณนะครับพี่ซองยอล”


“ไม่เป็นไรหรอก” ซองยอลยกมือขึ้นมาลูบกลุ่มผมนุ่มของรุ่นน้องเบาๆด้วยความเอ็นดู


ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของเล่นของอีซองยอลนะ อีซองจง







-- Passionate –








คิมมยองซูนั่งมองคนตัวสูงที่กำลังเดินกลับมาที่โต๊ะของพวกเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หลังจากที่เขาเห็นว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะเดินแยกจากเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง คนหน้าหล่อจ้องมองซองยอลพร้อมกับใช้ความคิด อะไรบางอย่างในหัวของเขามันเตือนเขาว่าไม่ควรเข้าใกล้อีซองยอลหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหา หากแต่อีกส่วนหนึ่งกลับร่ำร้องบอกให้วิ่งเข้าไปสู่เกมที่อีซองยอลเตรียมจะลากคิมมยองซูเข้าไปเกี่ยวข้อง


“ของนาย” มยองซูยื่นแก้วเครื่องดื่มให้กับคนหน้าหวานทันทีที่อีกฝ่ายทรุดตัวลงนั่งตรงที่เดิม ซองยอลช้อนตาขึ้นมามองเขาเล็กน้อยพร้อมกับส่งยิ้มที่มุมปากมาให้


มันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจอกันในวันนี้ที่มยองซูได้มองสำรวจใบหน้าของซองยอลอย่างถี่ถ้วน ดวงหหน้าเรียวรีเป็นรูปไข่ ดวงตากลมโตที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาลสวยชวนดึงดูดใจที่ถูกห้อมล้อมด้วยแพรขนตายาวเกินกว่าบุรุษเพศทั่วไป แก้มเนียนใสที่มีสีเลือดฝาดตามธรรมชาติที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวดูแลตัวเองดีขนาดไหน จมูกโด่งที่ตรงปลายรั้นเล็กน้อย รวมไปถึงริมฝีปากอิ่มน้ำสีชมพูระเรื่อที่ดึดดูดสายตาได้ไม่น้อย


ตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้วที่คิมมยองซูรู้ว่าอีซองยอลนั้นหน้าหวานราวกับผู้หญิง เนื่องจากสมัยนั้นเขาทั้งสองคนต้องทำงานร่วมกันบ่อย ใบหน้ายามตั้งใจวาดรูปของซองยอลยังคงหลงเหลืออยู่ในความทรงจำของมยองซูเสมอ ช่วงเวลาที่อีซองยอลตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างนั้นทำให้คนหน้าหวานคนนี้ดูสวยงามรวมกับภาพวาดที่จิตรกรมือหนึ่งบรรจงสร้างสรรค์ขึ้น


มยองซูชอบซองยอลตรงที่เจ้าตัวเป็นในสิ่งที่เขาไม่เคยเป็น


ซองยอลไม่มีกรอบ คนตัวสูงมักจะหลุดออกไปในโลกที่มยองซูไม่อาจเดินเข้าไปได้ ซองยอลเป็นคนที่ทำให้มยองซูรู้เรื่องราวหลายๆอย่างมากกว่าที่ในหนังสือมี และก็เพราะซองยอลอีกนั่นแหละที่ทำให้มยองซูเป็นแบบนี้


เพราะสิ่งที่ซองยอลเป็น มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะอิจฉา


“นายนี่น่าอิจฉาไม่เปลี่ยน” คิมมยองซูเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนากับอีซองยอลก่อน คำพูดของเขาดูท่าว่าจะทำให้อีกฝ่ายประหลาดใจได้ไม่น้อย เมื่อคิ้วเรียวสวยนั้นเลิกขึ้นสูงราวกับว่าเจ้าตัวไม่เข้าใจในคำพูดของเขาเสียเต็มประดา “ฉันหมายถึงเรื่องเด็กคนนั้น”


“อ้อ” คนหน้าหวานส่งเสียงบอกว่าเจ้าตัวเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดถึงแล้ว ก่อนที่ซองยอลจะวาดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า “น่ารักใช่ไหมล่ะ”


มยองซูไม่ได้ตอบ เขาทำเพียงพยักหน้ากลับไปแล้วนั่งฟังซองยอลพูดพร่ำถึงเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างเพลิดเพลินท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงของคิมซองกยูที่ดังขึ้นปรามซองยอลเป็นบางครั้งบางคราว ส่วนมยองซูก็ทำหน้าที่ชงเหล้าเพิ่มให้ซองยอลแก้วแล้วแก้วเล่า


“มยองซู พาซองยอลกลับบ้านเถอะ ดูจะไม่ไหวแล้วนะ” คิมซองกยู รุ่นพี่คนสนิททั้งของมยองซูและซองยอลพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าซองยอลนั้นเมาจนคอพับคออ่อน ขนาดนั่งให้ตรง ในตอนนี้เจ้าตัวยังทำไม่ได้เลย


“ครับ” มยองซูตอบรับก่อนจะเดินเข้าไปหิ้วปีกซองยอลคู่กับซองกยู จากนั้นเขาทั้งสองคนจึงพาคนหน้าหวานที่เมาจนหลับเดินไปขึ้นรถของมยองซูที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ “ขอบคุณที่มาส่งซองยอลที่รถผมนะครับพี่ซองกยู”


“ไม่เป็นไร” หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยตอบกลับพลางโบกมือไปมาเล็กน้อย “ขับรถกลับดีๆละ นายก็ดื่มไปเยอะเหมือนกัน”


“ครับ”


มยองซูเอ่ยตอบรับคำพูดของรุ่นพี่เพียงแผ่วเบา จากนั้นจึงบอกลาอีกฝ่ายแล้วขับรถกลับคอนโดของตัวเองทันที โชคดีที่คอนโดของเขากับซองยอลนั้นเป็นที่เดียวกัน มยองซูจึงไม่จำเป็นต้องขับรถไปหลายที่ แต่ปัญหาก็คือมยองซูไม่รู้ว่าห้องของซองยอลคือห้องไหน


“ซองยอล” คนหน้าหล่อเขย่าตัวของคนหน้าหวานเบาๆเพื่อเรียกสติของอีกฝ่าย “ซองยอลอา”


คิมมยองซูลองทำทุกวิถีทางที่จะปลุกอีซองยอลให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา ทว่าคนตัวสูงกลับไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลงจากรถเพื่อไปพยุงร่างสูงโปร่งของซองยอลให้เข้าไปภายในตึกอย่างทุลักทุเล เนื่องจากซองยอลกับมยองซูขนาดตัวไม่ได้ต่างกันเท่าไร อีกทั้งมยองซูยังสูงน้อยกว่าซองยอลนิดหน่อยอีกด้วย เมื่ออีกคนเมาเสียขนาดนี้แล้วต้องมาแบกกันเช่นนี้ ก็ไม่ต่างจากน้ำหนักตัวทั้งหมดของซองยอลถูกเทลงบนตัวของมยองซูเลยแม้แต่น้อย


“อื้อ..” เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นจากคนที่มยองซูแบกอยู่ คนหน้าหล่อจึงหันไปมองซองยอลที่ขยัตัวเล็กน้อยคล้ายกำลังจะได้สติ แต่ดูท่าทางแล้วสติของซองยอลก็ยังไม่ได้กลับมาครบถ้วนเสียเท่าไรนัก เมื่ออีกคนหันมามองเขาด้วยดวงตาที่ระยิบระยับคล้ายกับเด็กชายที่เพิ่งจะเจอของเล่นที่ถูกใจ


“มยองซูยา...” เสียงทุ้มที่เจือความหวานนั้นแหบพร่าจนมยองซูอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ริมฝีปากสีแดงสดที่แดงขึ้นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ของซองยอลนั้นแทบจะแนบชิดไปกับลำคอของเขาเสียแล้ว ลมหายใจผะแผ่วที่ระอยู่แถวหูทำให้มยองซูรู้สึกคล้ายกับว่าสติของเขากำลังจะเตลิดไปไกล โดยเฉพาะยามที่ผิวกายสัมผัสโดนกันด้วยความไม่ตั้งใจ หรือจะตั้งใจก็แล้วแต่


“ซองยอล นายเมามากนะ อีกนิดก็จะถึงห้องฉันแล้ว เดี๋ยวฉันจะชงกาแฟดำให้”


“นี่ มยองซูยา...” เสียงหัวเราะคิกคักของซองยอลดังขึ้นพร้อมกับที่อีกฝ่ายเอ่ยเรียกชื่อของมยองซู คนหน้าหล่อมิได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดเพื่อตอบกลับไป มยองซูทำเพียงประคองร่างที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือของซองยอลตรงไปยังห้องพักขงเขา ในขณะที่หูก็ยังคงฟังว่าคนที่กำลังเมาอยู่นั้นพูดอะไร “นายจะอยากเป็นของเล่นของฉันไหมน้า”


“ของเล่น?” มยองซูทวนคำด้วยความสงสัย


“ฮึ ของเล่นของฉัน ที่ฉันจะเล่นกับร่างกายของนายเมื่อไหร่ก็ได้” ซองยอลพูดขึ้นในขณะที่มยองซูกำลังพาคนตัวสูงเดินเข้าไปภายในห้องพักของเขา แต่แล้วร่างหนาของมยองซูก็ถูกอีซองยอลผลักติดกำแพง “เหมือนกับในตอนนี้”


ริมฝีปากอิ่มน้ำที่มยองซูมองว่ามันน่าสัมผัสนักหนาแนบจูบลงบนริมฝีปากของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว มยองซูตกใจแต่ก็ตอสนองสัมผัสของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี


ชายหนุ่มค่อยๆก้าวเดินเพื่อนำพาอีซองยอลให้เดินไปยังห้องนอนของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น มยองซูและซองยอลผลัดกันรุกรับอย่างไม่มีใครยอมใคร ริมฝีปากที่ดูดดึงกลีบปากอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้กันนั้นเริ่มรุนแรงขึ้นทุกที เช่นเดียวกับสติของคิมมยองซูที่ถูกริดรอนไปทุกขณะ จนกระทั่งซองยอลเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออกไปก่อน


มยองซูผลักร่างสูงโปร่งของซองยอลให้ลงไปนอนราบอยู่บนเตียงของเขา ก่อนที่เจ้าของเตียงจะก้าวตามขึ้นไปทาบทับลงบนร่างกายของอีกคนที่เลิกคิ้วมองทันที


wrong position” ซองยอลพูดขึ้นมาพร้อมกับพลิกตัวของมยองซูให้ไปอยู่ด้านล่างของตนเอง จากนั้นมือเรียวจึงเริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกทีละน้อย จนกระทั่งเห็นแผงอกที่ซองยอลไปรอช้าที่จะลงไปประทับรอยจูบสีจาง


คิมมยองซูปล่อยให้อีซองยอลปลดเสื้อผ้าของเขาออกทีละชิ้น ดวงหน้าหวานยามก้มลงมาใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกันนั้นกำลังทำให้มยองซูรู้สึกหลงใหลในความงามบนใบหน้าของอีกคนอย่างไม่มีข้อแม้ อีซองยอลช่างน่าหลงใหล อีกทั้งสัมผัสจากริมฝีปากและปลายลิ้น รวมไปถึงฝ่ามือนุ่มที่กำลังลูบไล้ร่างกายของเขาอยู่นั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคล้ายกับว่าเขากำลังจะคลั่งไปกับสัมผัสเหล่านี้ในไม่ช้า คนหน้าหล่อไม่รอช้าที่จะพลิกร่างโปร่งของซองยอลให้ลงไปนอนราบอยู่บนที่นอนแทนที่เขา มยองซูกดยิ้มมุมปากเล็กน้อยในพลางเคลื่อนใบหน้าลงไปจนเกือบชิดกับดวงหน้าของซองยอล


"นายต่างหากที่ต้องเป็นของฉันน่ะ" เมื่อพูดจบคนหน้าหล่อจึงทาบริมฝีปากของตนลงบนกลีบปากอวบอิ่มของซองยอลในทันที ชายหนุ่มดูดดึงริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างยั่วเย้า ปลายลิ้นร้อนถูกส่งออกมาแตะลงบนช่องว่างของริมฝีปากคล้ายกับจะบอกซองยอลว่าให้เปิดโอกาสให้เขาได้เขาไปด้านใน


ซองยอลเผยอริมฝีปากออกด้วยความรัญจวน


ชายหนุ่มหน้าหวานทำได้เพียงตอบรับรสจูบของมยองซูอย่างเคลิบเคลิ้ม มือน้อยค่อยๆไต่ขึ้นไปคล้องคอของมยองซูเอาไว้เพื่อหาที่พึ่ง ดวงตาคู่สวยปรือปรอยขึ้นมาเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลาของคิมมยองซูได้เพียงไม่นานก็จำต้องหลับตาลงเช่นเดิม เสื้อผ้าของซองยอลถูกปลดออกไปโดยที่คนหน้าหวานไม่ทันรู้ตัว ผิวกายร้อนผ่าวที่ทาบทับลงมาอีกครั้งสร้างความวาบหวามได้ไม่น้อยไปกว่ารอยจูบที่ถูกประทับลงบนผิวของเขา ซองยอลแอ่นกายรับสัมผัสจากฝ่ามือของมยองซูยามที่อีกฝ่ายลากมือไปตามเรือนกายของเขา


"อื้อ" เสียงครางที่ซองยอลไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมันจากปากของตนเองดังขึ้นโดยที่เขาไม่ทันได้ต้านทาน ก่อนที่เสียงนั้นจะหายไปอีกครั้งเมื่อมยองซูประกบริมฝีปากลงมา พร้อมๆกับกางเกงตัวน้อยของเขาที่ถูกถอดออกไป


ฝ่ามือร้อนที่กอบกุมส่วนกลางลำตัวของเขาทำให้ซองยอลอดไม่ได้ที่จะร้องครางออกมาด้วยความตกใจ มยองซูกดยิ้มราวกับอีกฝ่ายกำลังนึกเอ็นดูในท่าทีของซองยอล มือหนารูดรั้งไปตามความยาวของสิ่งที่อยู่ในอุ้งมือเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นก่อนจะลดจังหวะให้ช้าลงาวกับแกล้งคนที่อยู่ใต้อาณัติของตนในตอนนี้


“ย-อย่าแกล้งสิ” ซองยอลร้องท้วงด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าไปด้วยความต้องการ


“ไม่ได้แกล้งซะหน่อย” มยองซูตอบด้วยเสียงต่ำ ก่อนที่ปลายลิ้นร้นจะจุดสัมผัสที่จุดไวสัมผัสบนหน้าอกของซองยอล สัมผัสที่ได้รับทำให้ซองยอลต้องแอ่นอกเข้าหาริมฝีปากที่ทำการครอบครองเขาอยู่อย่างไม่ทันได้ห้ามตัวเอง ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะอุณหภูมิในร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นอยู่ทุกขณะ ในขณะที่สะโพกอวบก็ยกขึ้นร่อนเพื่อตอบรับสัมผัสจากฝ่ามือของมยองซู


“ฮื้อ”เสียงครางที่เจือสะอื้นของคนน่ารักดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมยองซูลากริมฝีปากไปประทับจูบลงบนแผ่นท้องเรียบเนียน ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ความปรารถนาของซองยอลได้ไปในจุดที่สูงที่สุด คนหน้าหวานหอบหายใจถี่รัว ก่อนจะที่ร่างทั้งร่างจะต้องกระตุกเกร็งเมื่อเจ้าตัวรู้สึกได้ถึงเรียวนิ้วที่แทรกสอดเข้ามาภายในร่างกาย พร้อมๆกับคำพูดที่คล้ายจะล้อเลียนของคิมมยองซู


“ปกตินายคงทำให้คนอื่นสินะ ถึงได้ยัง...”


“ห-หุบปากไปเลยไป!” ซองยอลทำได้เพียงส่งเสียงร้องโวยวายตอบกลับอีกฝ่ายไปเท่านั้น จากนั้นร่างโปร่งบางจึงทำได้เพียงหอบครางตัวสั่นเมื่อคนด้านบนสอดแทรกนิ้วเรียวเข้ามาเพิ่มโดยไม่ทันให้เขาตั้งตัว จนกระทั่งในที่สุดมยองซูก็ถอดถอนสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายของเขาออกไป ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่สร้างความเจ็บปวดได้มากกว่านั้น


ใบหน้าหวานเบ้ด้วยความเจ็บปวด ยามที่รู้สึกร่างกับว่าร่างกายของตนนั้นกำลังจะปริแตกแยกออกจากกันเมื่อคิมมยองซูสอดแทรกร่างกายของตนเองเข้ามาภายในตัวเขาอย่างไม่ปรานี ซองยอลทำได้เพียงส่งเสียงร้องออกไปด้วยความเจ็บปวด ขาเรียวสวยแยกออกจากกันให้กว้างมากขึ้นเพื่อคลายความเจ็บปวด


คิมมยองซูก้มลงมาเพื่อจูบซับรอยน้ำตาที่ซึมออกจากหางตาของซองยอลด้วยความอ่อนโยน ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาจะยกยิ้มอ่อนโยนจนคนน่ารักรู้สึกราวกับว่าดวงตาของตนเองกำลังพร่ามัวให้กับความน่าดูชมของใบหน้าที่ไร้ที่ตินั้น


“ทนหน่อยนะซองยอล”


เสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนดังที่ข้างหู ซองยอลนึกอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกไปเพื่อตอบโต้ แต่ทว่าคนหน้าหวานกลับไม่สามารถทำได้ดังใจ เรียวปากอิ่มน้ำทำได้เพียงเผยอออกเพื่อส่งเสียงครางด้วยความซาบซ่านในสัมผัสที่มยองซูมอบให้ หูแว่วได้ยินเสียงกระกันของผิวเนื้อที่ดังเสียจนเขารู้สึกอาย แต่ในเวลานี้ซองยอลไม่รับรู้อะไรนอกจากสัมผัสอันเร่าร้อนจากกคิมมยองซู


แขนเรียวยกขึ้นไปรั้งร่างของมยองซูให้ขยับลงมาใกล้จนผิวกายแนบสนิทกว่าที่เคย ซองยอลแตะริมฝีปากของตนเองเข้ากับกลีบปากเรียวสวยของมยองซู ก่อนจะบดเบียดไปคล้ายหาที่ระบาย ซึ่งมยองซูเองก็ไม่ได้ทำการต่อต้านอะไรอีกทั้งยังตอบสนองสัมผัสของคนในอ้อมกอดเป็นอย่างดีเสียอีก เมื่อละจากริมฝีปาก ซองยอลก็ค่อยๆไล่จูบไปตามใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะลากสัมผัสลงมาที่ลำคอแกร่ง


กลีบปากสีสวยทาบลงไปบนผิวเนื้อที่ลำคอของมยองซูก่อนจะดูดดึงจนขึ้นสีคล้ายกับต้องการเอาคืนที่อีกฝ่ายฝากร่องรอยไว้บนเรือนกายของตนเอง มยองซูกดยิ้มก่อนที่คนหน้าหล่อจะคว้าเอวเล็กของซองยอลแล้วออกแรงยกอีกฝ่ายขึ้นมาอยู่บนตัวโดยที่ตนเองลงไปนอนราบกับผิวที่นอนแทน


“ขยับสิ” มยองซูพูดพร้อมกับกัดฟันแน่น เมื่อร่างกายบอบบางเริ่มขยับกายขึ้นลงอย่างเชื่องช้า ทว่ากลับสร้างความรัญจวนใจให้กับเขาได้ไม่น้อย คนหน้าหล่อเกร็งหน้าท้องพร้อมกับทำการสวนสะโพกขึ้นไปยามที่ซองยอลขยับกายลงมา เสียงครางหวานหูดังขึ้นไม่ขาดหูคละเคล้าไปกับเสียงกระทบของผิวเนื้อที่ดังอย่างน่าอาย


แต่ในขณะนี้ทั้งคิมมยองซูและอีซองยอลไม่มีใครที่สนใจกับสิ่งเหล่านั้นแม้แต่น้อย


สิ่งที่พวกเขารับรู้นั้นมีเพียงสัมผัสจากอีกคนเท่านั้น


ทั้งคิมมยองซูและอีซองยอล กำลังตกลงไปในห้วงอารมณ์ที่กำลังจะมอดไหม้พวกเขา



เขาทั้งสองคนกำลังตกลงไปในห้วงแห่งราคะอันมิอาจจะปีนขึ้นมาได้



TBC.



-- Passionate –

TALK WITH khanunys

เดินทางมาถึงตอนที่ 2 พร้อมกับความสงสัยที่กำลังก่อตัว
ตกลงมีคนอ่านฟิคเรื่องนี้ไหมคะ orz คือแบบว่ายอดวิวมันลดลงแบบอลังการ
คือปกติคอมเม้นต์ฟิคเรามันก็ไม่มีอยู่อ่ะค่ะ เราเลยไม่โฟกัสตรงนั้น
แต่ยอดวิวลดลงไปร้อยกว่าเลยได้แต่ถามตัวเองว่าฟิคมันไม่สนุกใช่ไหม T_T
แต่ก็ไม่รู้จะหาทางออกยังไงนอกจากบอกให้คอมเม้นต์กับติดแท็กแล้วล่ะค่ะ
มันมีแค่สองทางนี่ล่ะที่จะช่วยเหลือกันได้ orz
เอาเป็นว่าอย่าลืมแท็ก #ฟิคพชน ของเรานะคะ
คือมันเงียบเหงามากเลย orz
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ :D

7 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ7 พฤษภาคม 2557 เวลา 02:43

    เราอ่านไปลุ้นไปว่าใครจะเป็นคนคุมเกม ฮ่าๆๆๆ แล้วก็อย่างไม่ต้องสงสัยว่ามันต้องคือมยองซูเป็นแน่แท้ ถึงซองยอลจะตั้งใจว่าจะรุกก็เถอะ (แต่ก็ยอมง่ายไปนะ 555555555555555555+)
    รอติดตามนะคะ ^^

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ8 พฤษภาคม 2557 เวลา 01:37

    คุณไรท์ เราเป็นแฟนฟิค (มยองยอล) ของคุณไรท์น้าาา
    ไม่ได้หายไปไหน แต่ว่าไม่รู้ว่าฟิคอัพแล้วอะค่ะ

    ปล. ปกติเราอ่านแต่บอร์ดใหญ่กับเด็กดี มันเป็น list fic เรียงเรื่องที่ลงตามวันที่เลย
    และเวลา search ก็ง่ายด้วย พอตอนนี้คุณไรท์ลงบอร์ดใหญ่ไม่ได้
    เราเลยไม่รู้ว่าจะหาฟิคลงใหม่ ๆ ของไรท์เตอร์ที่ลงในบล็อคยังไงอะค่ะ
    เลยไม่ทราบว่า ไรท์แต่ละท่านวันนี้อัพฟิคใหม่รึเปล่าน้าา

    การี๊สสส แชบนี้ เริ่มต้นมาคิดว่า พี่ยอลจะเปลี่ยน เมะเคะ กะมยองซ้าอีกก
    แต่ไม่เป็นไรเนาะ ยังไงก็คู่กันอยู่ดี wrong position จากที่ยอลตั้งใจไว้นิหน่อยไม่เป็นไร ฟินนนนอยู่ดี

    ตอบลบ
  3. ว่าแล้วตอนนี้ต้องมีเอ็นซี แต่ว่านะยอลอยากจะกดมยอง แล้วทำไมถึงกลายเป็นมยองกดยอลได้ล่ะ 555+ แต่ว่าอยากรู้ว่าตื่นมาแล้วยอลจะทำยังไง ในเมื่อที่คิดไว้มันไม่ใช่ตามแผน แล้วยอลยังจะเล่นเกมนี้ต่อไปอีกหรือเปล่า. มาอ่านตอนนี้ช้านิดนึงนะคะไรต์ เพราะกำลังยุ่งเรื่องเรียนอยู่ ไรต์อย่าพึ่งท้อเรื่องวิวเรื่องคอมเม้นท์นะคะ ยังมีคนที่อยากอ่านฟิคของไรต์อยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ.

    ตอบลบ
  4. น้องขนุน เพิ่งรู้เค้าลืมเมนท์

    อร๊างงงง น่้องยอล Wrong Position หราจ๊ะ เป็นงัยล่ะ
    แต่ทำไมนุ้งยอลเป็นแบบนี้ เธอไม่โดนใครหักอกป่าวหว่า
    แต่ที่สุด เธอก็เผลอกล่ากะมิงเรื่องของเล่นเลย
    แล้วเป็นงัยล่ะคร๊า โดนกดแทน
    แต่ NC เร่าร้อนจริง ๆ นะ มายยอล ไม่เค๊ย
    น้องมิงก็แซวซะนะ แต่ตอนนี้เริ่มเจออะไรที่ยุ่งเยิงแปลก ๆ อ่ะ

    ตอบลบ
  5. ชอบมากเลยเรื่องนี้ติดตามอยู่นะค่ะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ24 พฤษภาคม 2557 เวลา 16:53

    จะรุกเค้าไหงกลายเป็นยอมเค้าง่ายๆเลยล่ะซองยอล ฮ่าๆๆ

    ยังมีคนอ่านอนู่น้าไรท์เตอร์ แค่เพิ่งมาอ่านเท่านั้นเอง
    เป็รกำลังใจให้แต่งต่อไปค่ะ สู้ๆ

    ตอบลบ
  7. โถ ซองยอลคนเจ้าชู้ กะว่าจะกดเค้า แต่ดันโดนเค้าก็แทน
    น่าสงสารจริงๆเชียวววววว
    เป็นไง ติดใจเลยล่ะสิ

    ตอบลบ