วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[OS] Love me like you do ∞ myungyeol

Title: Love me like you do
Pairing: myungsoo/sungyeol
Genre: AU, PWP
Author: khanunys
A\N: - ครั้งสุดท้ายกับฉากแบบนี้มันก็นานมาแล้วน่ะนะ ฝืดบ้างอะไรบ้างอย่าถือสากันเหลย (/__\)
                - หมอเหงือกยอลบอกให้เขียน คุณขนุนคนดีไม่ผิดนะคะนะ

                - แอบขายอดดร.ด้วยได้ไหม ได้แหละ พรีออเดอร์อดดร. นะคะ จิ้มค่ะ!



#knysfic








Every inch of your skin is the holy grail I’ve got to find.
Only you can set my heart on fire.





ภาพของเรียวขาวยาวขาวผ่องที่พาดอยู่บนพนักของโซฟาที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์กลางห้องดึงดูดสายตาของคิมมยองซูผู้ซึ่งเดินทางกลับมาถึงห้องพักของตนเองได้ในทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามา ดวงตาคู่คมไล่มองจากปลายเท้าของคนที่นอนเล่นอยู่บนโซฟาไปจนถึงต้นขาที่โผล่พ้นออกจากกางเกงขาสั้นที่พวกผู้หญิงมักจะใส่กัน


แต่เอาตามความจริงแล้วคิมมยองซูยังไม่เคยเห็นใครใส่กางเกงขาสั้นแล้วดูยั่วยวนเท่ากับอีซองยอลสักคนเดียว


“กลับมาแล้วเหรอ” เสียงนุ่มที่ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งมยองซูก็รู้สึกว่ามันหวานหูเหลือเกินดังขึ้นในตอนที่เขาเดินเข้าไปด้านในห้องเพื่อนำของที่เขาถือติดมือมาไปวางเอาไว้บนโต๊ะทานอาหาร ในขณะที่เจ้าของคำถามนั้นพลิกกายมานอนคว่ำโดยยกตัวขึ้นด้วยศอกทั้งสองข้าง จนเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมออกไปสองเม็ดนั้นเปิดออกจนสามารถเห็นแผ่นอกขาวที่มีร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของสีเดียวกับกลีบกุหลาบแต่งแต้มอยู่จางๆ


“กลับมาแล้วครับ” คนหน้าหล่อพูดเสียงนุ่ม พลางเคลื่อนกายไปหาคนรักของเขาที่นอนเล่นอยู่บนโซฟาพร้อมกับมอบจูบหวานๆให้อีกคนด้วยความคิดถึง ทั้งๆที่ความจริงแล้วเราเพิ่งจะแยกกันเมื่อเช้านี้ตอนที่เขาออกไปเรียน และอีซองยอลเตรียมตัวจะออกไปทำงานแท้ๆเชียว


“ทำไมวันนี้กลับช้าล่ะ” เจ้าของร่างบอบบางที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาเอ่ยถาม ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาโดยไม่ได้สนใจเลยว่าเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่มยองซูจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่ามันเป็นของเขานั้นหล่นลงมากองอยู่ที่ศอกข้างหนึ่งจนเผยให้เห็นแผ่นอกขาวและเม็ดทับทิมสีหวานที่ยั่วตายั่วใจเขาอยู่


ฟัค


คิมมยองซูสบถในใจก่อนจะยกร่างของคนอายุมากกว่าขึ้นมานั่งบนตัก จมูกโด่งกดลงบนซอกคอขาวที่ส่งกลิ่นกรุ่นอย่างยั่วยวนในทันที ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะค่อยๆแนบประทับและไล่เลียไปบนผิวกายเนียนนุ่มที่เขาหลงใหลนักหนานั้น สำหรับมยองซูแล้ว อีซองยอลเป็นเหมือนกับสารเสพย์ติดชนิดหนึ่งที่เขาต้องการจนไม่รู้จักพอ


มือหนาเริ่มสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกับลูบไล้ไปตามผิวเรียบลื่นนั้น หูก็แว่วได้ยินเสียงร้องห้ามที่ดังกว่าเสียงกระซิบเพียงแค่นิดเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สามารถทำให้มยองซูหยุดความต้องการที่พุ่งทะยานขึ้นสูงของเขาได้เลย มือหนาจึงถอดกางเกงขาสั้นที่อีกคนใส่เอาไว้ออกโดยที่ซองยอลเองก็ไม่ทันได้รู้ตัว ชายหนุ่มหน้าหล่อรั้งร่างบางของคนรักให้นอนราบ โดนที่ขาของซองยอลนั้นเขาวางพาดไปกับที่เท้าแขนซึ่งอยู่ริมสุดของโซฟา ใบหน้าคมคายก้มลงไปกดจูบลงบนต้นขาด้านในของอีซองยอล พร้อมกับขบเม้มจนเกิดรอย ก่อนจะค่อยๆไล่กดจูบสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนไปพบกับส่วนอ่อนไหวของร่างกายที่เริ่มตื่นตัวจากการปลุกเร้าของเขา


คนหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นไปสบตากับอีกคนที่ยกศีรษะของตนเองขึ้นมาเพื่อมองเขาพอดี คิมมยองซูจึงยกยิ้มที่มุมปากส่งไปให้อีกคนแล้วค่อยๆครอบริมฝีปากไปบนส่วนกลางของร่างกายที่แข็งขืนอยู่ตรงหน้า หยอกเย้ากับส่วนอ่อนไหวนั้นด้วยปลายลิ้นและโพรงปากจนอีซองยอลส่งเสียงครวญครางออกมาให้ถูกใจ หากแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปถึงฝั่งฝันดังที่ปรารถนาง่ายขนาดนั้น


“จะเอาเปรียบกันเหรอครับ อาจารย์” มยองซูเอ่ยถามเสียงนุ่ม หลังจากที่ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับปลดเสื้อผ้าของตนเองออกจากร่างกาย โดยที่ดวงตาทั้งสองคู่ยังคงสบกันอยู่อย่างนั้น


“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย” ซองยอลพูดก่อนที่ริมฝีปากอิ่มนั้นจะเคลือบไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่มือเรียวสวยก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ตนเองสวมใส่อยู่ออกทีละเม็ดเป็นการยั่วอารมณ์คนมอง “อดีตลูกศิษย์


คำพูดของคนหน้าหวานทำให้มยองซูต้องกระตุกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ จะว่าไปสิ่งที่ซองยอลพูดก็ถูกต้องแล้ว เพราะในตอนนี้คิมมยองซูเป็นอดีตลูกศิษย์ที่ดำรงตำแหน่งคนรักของอาจารย์สอนภาษาอังกฤษหน้าหวานที่กำลังยั่วยวนเขาอยู่คนนี้


What do you want me to do next?” คิมมยองซูเอ่ยถามอีซองยอลเสียงพร่า พร้อมกับโถมตัวลงไปทาบทับอยู่บนเรือนร่างขาวเนียนที่ยั่วยวนสายตาเขาอยู่นานแล้ว มือหนากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจนอีซองยอลไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิดร่างกาย ปลายนิ้วเรียวรุกคืบเข้าไปในช่องทางด้านหลังอย่างเอาแต่ใจจนซองยอลต้องส่งเสียงครางออกมาให้อีกคนได้ฟังตามที่ต้องการ





My head’s spinning around, I can’t see clear no more.
What are you waiting for?





เรือนร่างขาวนวลเนียนนั้นบิดไปมาราวกับขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน ยามที่ฝ่ามือหนาข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามร่างกายของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวที่ขยับอย่างร้ายกาจเพื่อปรนเปรอและเตรียมพร้อมช่องทางของเขาให้พร้อม แนวฟันขาวขบลงบนกลีบปากนุ่มด้านล่างจนเริ่มช้ำ สุดท้ายแล้วจึงเป็นคิมมยองซูเสียเองที่ต้องกดปลายนิ้วลงบนนั้นเพื่อให้อีกคนเลิกกัน ก่อนจะเปลี่ยนจากนิ้วเป็นริมฝีปากของตนเองแทน


จูบแล้วจูบเล่าที่สอดคล้องกับการขยับมือของคิมมยองซูนั้นได้ชักพาอีซองยอลไปจนถึงปลายทางของความสุขโดยที่เขาเองก็ไม่ทันได้รู้ตัว


Tell me.” มยองซูกระซิบแทบจะชิดกับริมฝีปากของซองยอล “What do you want me to do next?


อีซองยอลร้องครางออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ดุนดันอยู่ตรงช่องทางด้านหลังของเขา คนหน้าหวานรู้ดีว่าคนที่ทาบทับอยู่ด้านบนนั้นปรารถนาที่จะครอบครองเขามาแค่ไหน และรู้ตัวดีว่าเขาอยากจะถูกอีกฝ่ายครอบครองมากแค่ไหนเช่นเดียวกัน


ดังนั้นท่อนแขนกลมกลึงจึงเกาะกอดลำคอของคนด้านบนแน่น มือบางก็ออกแรงรั้งบนหน้าอีกคนเข้ามาใกล้แล้วบดเบียดริมฝีปากไปบนอวัยวะชนิดเดียวกันอย่างร้อนแรง จากนั้นจึงกระซิบเสียงพร่าเมื่อถอนริมฝีปากออกมาเรียบร้อยแล้ว “Fuck me.


เมื่อจบวลีนั้น ท่อนเนื้อที่ร้อนรุ่มก็ชำแรกเข้ามาในร่างกาย ก่อนจะตามด้วยแรงกระแทกกระทั้นที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนทว่าแฝงเอาไว้ด้วยความอ่อนโยนเหมือนในทุกครั้งที่เขาทั้งสองคนบรรเลงบทเพลงรักกันให้แก่กันและกัน


เหงื่อที่รินไหลนั้นส่งผลให้ผิวกายของอีซองยอลดูผุดผ่องและน่าสัมผัสจนมยองซูต้องแนบริมฝีปากลงไปประทับรอยจูบบนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเดียวกันริมฝีปากสีสดที่ครวญครางเอ่ยเรียกชื่อของเขา ที่ทำให้คิมมยองซูต้องแนบริมฝีปากลงไปช่วงชิงความหวานและลมหายใจของอีกคนนับครั้งไม่ถ้วนราวกับคนไม่รู้จักพอ


“ม-มยองซู อ๊ะ” มือน้อยที่ถูกยกขึ้นมากอดคอเขาเอาไว้ ทำให้มยองซูรับรู้ได้ว่าอีกไม่นานปลายทางของอีซองยอลจะเดินทางมาถึง ชายหนุ่มจึงเลื่อนมือมาปรนเปรอส่วนอ่อนไหวของคนรัก พร้อมกับเพิ่มจังหวะในการขยับสะโพกเข้าออกของตนเองให้เร็วขึ้น และรุนแรงขึ้น จวบจนกระทั่งเขาสัมผัสได้ถึงความชื้นที่ฝ่ามือ


มือหนาละออกมาจับยึกสะโพกมนเอาไว้แน่น เพื่อรองรับการกระแทกกระทั้นที่รุนแรงขึ้นจากแรงอารมร์ของเขาที่พุ่งขึ้นสูงจนแทบจะทนไม่ไหว ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังส่วนที่เชื่อมต่อกันไม่วางตา พร้อมกับซี๊ดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อเห็นว่าช่องทางของคนรักนั้นกลืนกินเขาด้วยความร้อนแรงอย่างไร ร่างหนาเกร็งกระตุกอยู่สองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยความสุขออกมาในร่างกายของอีซองยอล แล้วทิ้งตัวลงซบบนแผ่นของคนรักเนื่องจากหมดแรง


“ลุกออกไปเลยนะ” ซองยอลพูดเสียงแผ่ว “มันหนัก”


“ไม่เอาหรอกครับ” มยองซูว่าพลางช้อนร่างของซองยอลให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนตอนที่เขาลุกขึ้นยืน ก่อนที่คนหน้าหล่อจะพาร่างบอบบางของอีซองยอลเดินตรงไปที่ห้องน้ำโดยที่ร่างกายยังคงเชื่อมต่อกันอยู่เช่นนั้น “ไปอาบน้ำกันนะ”




And the story goes on its way

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[DD Set] Adorable: 8th ∞ myungyeol

Adorable Set
8th: Hot cocoa, sweet smile

Paring: myungsoo x seongyeol
Genre: AU, Double drabble
Rate: PG
Author: khanunys
A\N: - หายไปนานมาก 55555555
#knysfic





















นักเรียนมัธยมเขาปิดภาคเรียนกันหมดแล้ว จะมีก็แต่นิสิตนักศึกษาเนี่ยล่ะที่ยังต้องตั้งใจเรียนต่อไป ซ้ำร้ายยังต้องสอบกลางภาคที่เหมือนกับสงครามขนาดย่อมอีกต่างหาก



“พี่มยองซู” เสียงหวานๆพร้อมกับกลิ่นหอมๆของโกโก้ร้อนที่วางลงบนโต๊ะเรียกความสนใจจากเจ้าของชื่อได้โดยง่าย มยองซูเงยหน้าขึ้นไปมองอีซองยอลที่วันนี้อยู่ในชุดไปรเวทน่ารักๆเนื่องจากเจ้าตัวปิดเทอมแล้ว แต่ซองยอลคนดีก็ยังมาช่วยงานที่ร้านกาแฟของพี่ชายอย่างสม่ำเสมอ


ผลพลอยได้ก็คือ มยองซูมีอาหารตาแลละกำลังใจไปโดยปริยาย เพราะตอนแรกเขาคิดว่าปิดเทอมซองยอลจะไม่มาเสียแล้ว


“ให้พี่เหรอ” มยองซูถามพลางชี้ไปที่แก้วโกโก้


“ครับ ซองยอลเห็นพี่มยองซูดูเครียดๆน่ะ” คนน่ารักว่าพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้


มีใครเคยบอกซองยอลไหมว่ายิ้มแบบนั้นมันทำให้คนมองหัวใจเต้นรัว



แล้วซองยอลรู้บ้างไหมว่าคิมมยองซูกำลังจะตายเพราะขึ้นจากหลุมรักนี้ไม่ไหวแล้ว


tbc.

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[OS] Untitled ✲ Sungyeol/Yoseob

Untitled
Pairing: Leesungyeol x Yangyoseob
Genre: AU, fluff
Author: khanunys
A\N: นี่มันยอลซอบที่ฉันปลูกเองเชียวนะ! // ไม่มีชื่อแปลว่าไม่มีชื่อเพราะคิดชื่อไม่ออก orz








เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ทุกครั้งที่หันไปเจอหัวใจของเขามันก็พองโตขึ้นทุกที



อีซองยอลไม่ใช่คนที่ดีเด่ด้านใดด้านกนึ่งจนสามารถเรียกได้ว่าเก่ง หรือมีความสามารถในด้านนั้น แต่สิ่งที่เขามั่นใจคือเขามีความพยายามไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต้องมาอยู่ในฐานะนักร้องอย่างจัดพลัดจับผลูแบบนี้ เขาไม่ได้ร้องเพลงเก่งเหมือนพี่ซองกยู ไม่ได้เสียงดีแบบอูฮยอน ไม่ได้อรพเก่งแบบพี่ดงอู ไม่ได้เต้นเก่งแบบโฮวอน หน้าตาก็ไม่ได้ดีเทียบดท่ามยองซู แล้วก็ไม่ได้น่ารักเท่าซองจง นั่นคือสิ่งที่ซองยอลคิดมาตลอด

ซองยอลก็แค่คนธรรมดาที่บังเอิญได้มายืนอยู่ที่จุดนี้

แต่เพราะเขาเป็นนักร้อง พอมีท่อนร้องน้อยหรือร้องไม่เพราะก็มักจะโดนโจมตีอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง...

“วันนี้ร้องเพลงไม่เพราะวันหน้าก็ร้องเพราะได้นี่” เสียงใสๆของเจ้าของรอยยิ้มน่ารักดังขึ้นในวันหนึ่งที่เขามาทำการแสดงที่รายการเพลง ซองยอลรู้จักคนคนนี้ทั้งจากผลงานและจากพี่ซองกยูและอูฮยอนที่มีเพื่อนสนิทอยู่วงเดียวกับยังโยซอบคนนี้

“รุ่นพี่...” ซองยอลไม่รู้จะพูดอะไรจึงพูดออกไปแค่นั้น

“สู้ๆนะ เนื้อเสียงนายดีอยู่แล้ว ฝึกอีกหน่อยก็เก่งแล้วล่ะ” รุ่นพี่โยซอบพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้วตบมือลงบนไหล่เขาเป็นการให้กำลังใจ

นับจากวันนี้ อีซองยอลก็ฮึดสู้ขึ้นมา เขาใช้เวลาทั้งหมดที่ไม่มีงานไปเรียนร้องเพลงเพิ่มเติม ฝึกร้องเพลงเดิมซ้ำๆ พัฒนาตัวเองในทุกๆด้านจนถึงวันคัมแบ็ค ซองยอลกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆหลังจากที่เช็คดูแล้วเห็นว่าวงของรุ่นพี่คนนั้นยังไม่มีกำหนดการคัมแบ็คทั้งๆที่โดยปกติแล้วพวกเขามักจะคัมแบ็คใกล้ๆกันตลอดแท้ๆ

หากแต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ข่าวการคัมแบ็คของวงรุ่นพี่ก็เริ่มกระจายวงกว้างออกมาจนซองยอลรู้ข่าว ชายหนุ่มตัวสูงเฝ้ารอผลงานที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาของรุ่นพี่อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอวันที่จะได้ยืนอยู่บนเวทีเดียวกันกับเขาคนนั้น
แล้ววันนั้นก็มาถึง

เพลงของวงที่รุ่นพี่โยซอบสังกัดอยู่ชนะในรายการเพลงในตอนที่พวกเขากำลังจะลาเวทีสำหรับปีนี้ไป ตอนอยู่บนเวทีซองยอลทำเพียงแค่โค้งให้และไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น

“ยินดีด้วยนะครับรุ่นพี่” คนตัวสูงพูดขึ้นอย่างนอบน้อมหลังจากที่ลงจากเวทีมาแล้ว

“อื้อ ขอบใจมากนะ” ยังโยซอบหันมาส่งยิ้มน่ารักให้กับเขาพร้อมกับพูดเสียงใสเหมือนเดิม

“ครับ” ซองยอลตอบกลับไป ในใจก็หวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะพูดอะไรต่ออีกสักนิด เพราะถ้าหากจะให้เขาหาเรื่องมาพูดก่อน ซองยอลก็คงไม่รู้ว่าเขาควรพูดอะไร

“จริงสิ!” โยซอบร้องขึ้นเสียงดังราวกับคิดอะไรได้ “นายร้องเพลงเก่งขึ้นนะ”

คำชมสั้นๆพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจ แต่มันกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เขามุ่งมุ่นที่จะพัฒนาตัวเองให้มากยิ่งๆขึ้นไป


ซองยอลไม่รู้ว่าในตอนนี้ความรู้สึกของเขามันหยุดอยู่ที่ตรงไหน แต่เขารู้สึกดีเหลือเกินกับการได้รับรอยยิ้มและคำพูดให้กำลังใจเหล่านั้น และเพราะเขาคนนั้น อีซองยอลคนนี้จึงไม่คิดจะละความพยายาม

end.

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[Ficlet] Pat Pat ∞ myungyeol

PAT PAT
(토닥토닥)



Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, ficlet
Rating: PG
Author: khanunys
Theme song: EXID - PAT PAT
A\N: - ส่งท้ายงิ จะสอบแหลว TvT
#knysfic















I wanna fall asleep next to you today, next to you
Block all my nightmares, hold me tight

(คืนนี้ผมก็แค่อยากจะนอนอยู่ข้างๆคุณ
ป้องกันผมไว้จากความฝันร้าย และกอดผมเอาไว้แน่นๆเลยนะ)





ร่างโปร่งนอนพลิกตัวอย่างกระสักระส่ายอยู่บนเตียงหลังกว้าง ก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับส่งเสียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ใสราวกับลูกแก้วจ้องมองไปยังประตูห้องนอนที่ปิดสนิทไม่วางตา ริมฝีปากอิ่มสีสดเม้มเข้าหากันแน่น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินลงจากเตียงไปแง้มประตูห้องนอนจนแสงจากด้านนอกส่องเข้ามาภายในจนอีซองยอลรู้สึกตาพร่า



“มยองซู...” ส่งเสียงเรียกคนที่นั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เบาๆ หากแต่นั่นกลับเรียกให้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลานั้นหันกลับมามองได้โดยง่าย



“ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ” คิมมยองซูละสายตาออกจากหน้าจอหันมาถามคนที่ยืนเกาะประตูห้องนอนเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่ติดจะดุเล็กน้อย



“นอนไม่หลับ...” อ้อมแอ้มตอบกลับไปพร้อมกับหลุบตาลงมองเท้าของตนเองด้วยเพราะกลัวจะโดนอีกคนดุ “ต-แต่จะกลับไปนอนเดี๋ยวนี้ล่ะ มยองซูต้องไม่ดุผมนะ”



ซองยอลได้ยินเสียงถอนหายใจแว่วมาตามสายลม จนคนหน้าหวานต้องกัดปากตัวเองเบาๆเพื่อข่มอารมณ์ ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะโดนมยองซูดุที่ยังไม่ยอมนอนสักที แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะบอกให้อีกคนรู้ว่าทำไมเขาถึงนอนไม่หลับเสียที







Let me be next to you tomorrow, no always let me fall asleep next to you
Shutting my eyes, next to you

(ให้ผมได้ตื่นมาพบว่าคุณนอนอยู่ข้างๆในวันพรุ่งนี้เถอะนะ ไม่สิ ให้ผมได้นอนข้างๆคุณทุกวันเถอะนะ
ผมจะปิดดวงตาของผมลง ในตอนที่นอนอยู่ข้างๆคุณ)







“มานี่มา” เสียงทุ้มนุ่มหูที่ไม่ว่างจะฟังกี่ทีเขาก็รู้สึกว่ามันทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นดังขึ้นพร้อมๆกับมืออุ่นที่โอบไหล่แล้วพาเขากลับไปที่เตียงหลังใหญ่ ซองยอลหันหลังกลับไปมองหน้าจอของคอมพิวเตอร์ที่ในตอนนี้ถูกปิดไปแล้ว ก่อนจะหันกลับมามองคนที่อยู่ข้างๆอีกครั้ง



“มยองซู แล้วงานล่ะ” คนน่ารักถาม พลางช้อนตาขึ้นมองคนที่จัดการวางข้าวของเล็กๆน้อยๆลงนโต๊ะข้างเตียงหลังจากที่มยองซูดันร่างของเขาให้นั่งลงบนที่นอนเรียบร้อยแล้ว



“ไม่ทำแล้วล่ะ” มยองซูตอบ “ถ้าทำต่อคนบางคนคงไม่ยอมนอนเสียที”



เมื่อพูดจประโยค คิมมยองซูก็สอดตัวเข้ามาภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันอีซองยอล คนหน้าหล่อกดร่างบางของคนที่นั่งมองตามการกระทำของเขา จากนั้นจึงใช้แขนทั้งสองข้างโอบร่างของคนน่ารักมากอดเอาไว้ในอ้อมแขน มืออุ่นก็ลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มของซองยอลเหมือนที่ทำทุกคืน



“มยองซู” เสียงหวานที่แสนจะงัวเงียดังขึ้นอีกครั้ง



“ครับ”



“ขอนอนข้างๆมยองซูแบบนี้ทุกวันเลยนะ” คำพูดออดอ้อนพร้อมกับใบหน้าหวานๆที่ถูไถอยู่ตรงอกกว้างเรียกรอยยิ้มเล็กๆให้ปรากฏบนใบหน้าของคิมมยองซูได้เป็นอย่างดี







Pat me when you’re next to me, sweet dreams my love
No words are needed, when I’m next to you, everything’s alright

(ลูบผมของผมตอนที่คุณนอนอยู่ข้างๆผมด้วยนะ ราตรีสวัสดิ์นะครับที่รัก
ผมไม่ต้องการคำพูดอะไรในตอนที่ได้นอนข้างๆคุณ แค่ได้นอนข้างๆกันมันก็ดีมากแล้วล่ะ)






“นอนเถอะ” กระซิบเบาๆที่ริมหูในขณะที่มือหนาก็ยังคงลูบกลุ่มผมของคนในอ้อมแขนไม่หยุด “ฝันดีนะครับ”



“อื้อ ราตรีสวัสดิ์นะมยองซู” น้ำเสียงงัวเงียที่แทบจะฟังไม่รู้เรื่องดังขึ้นพร้อมกับรอยจูบเบาๆใกล้ๆกับซอกคอที่ทำให้มยองซูต้องหัวเราะออกมาเบาๆ



คิมมยองซูกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนของอีซองยอลเบาๆก่อนจะปิดเปลือกตาลงบ้าง




ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าซองยอลจะนอนไม่หลับถ้าเขาไม่ได้ยอมมานอนกอดเจ้าตัวเสียที เพราะความจริงแล้วถ้าไม่ได้นอนกอดซองยอล มยองซูเองก็คงนอนไม่หลับเหมือนกัน



end.