วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[SSeries] 3rd - Body Say {myungyeol}

3rd - Body Say
Pairing: kimmyungsoo x leesungyeol
Genre: AU, Sexy
Author: khanunys

A/N: - ซีรี่ส์นี้มีเป็นสิบตอนเพราะเพลงติดเรทแบบนี้ที่ป้าชอบมีเป็นสิบเพลงจ้ะ555555555
- Characters based on last chapter
- ทำไมต้องเป็นแมวนอนบนเตียง? ถ้าสงสัยแบบทนไม่ไหวแล้วให้ไปถามเป็นการส่วนตัวนะ 5555555555555
สกรีมมิ่งแอท #MY_SSeries นะคะคนดี


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ cat on the bed
cr: http://cats.lovetoknow.com/How_to_Pick_a_Cat_Bed




And our eyes are crossing path across the room,
And there’s only one thing left for us to do.



เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้นเรียกให้อีซองยอลที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาตัวไม่ใหญ่มากในห้องนอนของคิมมยองซูต้องเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือในมือแล้วสบตาเข้ากัดวงตาคู่คมที่กำลังวาววับยามมองเห็นเสื้อผ้าที่เขาใส่

“เสื้อผ้านายตัวใหญ่หมดเลย ใส่ไม่ได้สักตัวเลยคว้าเสื้อเชิร์ตมาใส่แก้ขัด ไม่ว่ากันใช่ไหม” ชายหนุ่มหน้าหวานรีบเอ่ย ก่อนจะก้มหน้าก้มตามองหนังสือในมือต่อ หลังจากที่ดวงตากลมโตเผลอมองสำรวจเรือนกายแข็งแกร่งที่ในตอนนี้เสื้อผ้าของอีกฝ่ายแนบสนิทไปกับผิวเนื้อที่แท้จริงจนสามารถมองเห็นสัดส่วนทุกอย่างได้ชัดเจน

ที่ดูเหมือนจะชัดเจนจนเกินไปเพราะมันทำให้อีซองยอลรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งตัว

แน่นอนว่าเขาไม่ชอบความรู้สึกที่เกิดขึ้นเลยสักนิด ความรู้สึกที่คล้ายกับว่าร่างกายของเขามันพร้อมจะให้อีกฝ่ายครอบครองแล้ว

“ไปอาบน้ำก่อนไหมล่ะ จะมายืนอวดหุ่นที่ไม่ได้เรื่องของนายอยู่ทำไมกัน” อีซองยอลคนปากเก่งได้แต่กัดริมฝีปากล่างของตนเองเมื่อหูแว่วได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอและเสียงฝีเท้าของเจ้าของห้องที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เขาเข้าไปทุกที จนในที่สุดหนังสือเล่มเล็กในมือที่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาไปได้นั้นถูกดึงออกไปพร้อมกับร่างหนาที่เปียกชื้นซึ่งทาบทับลงมาทั้งตัว

“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เรื่อง” คิมมยองซูกระซิชิดใบหู ทั้งยังกดจูบลงมาหนักๆคล้ายจะแกล้งให้อีซองยอลเผยความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองออกมา

“นายไม่มีทางรู้ตัวหรอกซองยอลว่าสีหน้านายตอนมองมาที่ฉันมันเป็นยังไง”



You can touch me with slow hands, speed it up, baby make me sweat
Dreamland, take me there cause I want your sex



เสื้อเชิร์ตตัวเดียวที่สวมอยู่ถูกถอดออกไปตอนไหนซองยอลก็ไม่รู้ เขารู้เพียงแค่ในตอนนี้แผ่นหลังของเขากำลังแนบลงกับพื้นผิวของที่นอนนุ่มที่เริ่มจะคุ้นเคยเข้าไปทุกที ก่อนจะถูกทาบทับด้วยผิวกายร้อนผ่าวที่ติดจะชื้อเพราะอีกฝ่ายตากฝนมา ในขณะที่ริมฝีปากก็ยังคงแนบชิดสนิทกันพร้อมลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร

จะให้เขายอมรับแบบคนหน้าไม่อาย ในตอนนี้อีซองยอลก็พร้อมจะยอมรับ

ว่าเขาในตอนนี้ต้องการคิมมยองซูมากเกินกว่าที่ใครหน้าไหนจะคาดเดาไหว

มือหนาที่กำลังลากไล้ไปบนผิวกายเนียนนุ่มอย่างเชื่องช้านั้นทำให้อีซองยอลจำต้องบิดกายไปตามสัมผัสนั้น ร่างกายที่ไม่รักดีตอบสนองต่อสัมผัสของคนด้านบนจนอีซองยอลจนต้องกัดปากของตัวเองเอาไว้แน่นเมื่อเผลอสบตาเข้ากับดวงตาคู่นั้นของคิมมยองซูที่มองมาอย่างรู้ทัน ในขณะที่เรียวขายาวก็แยกออกกว้างเพื่อให้คิมมยองซูสามารถยื่นมือเข้าไปสัมผัสกับส่วนที่หลบซ่อนอยู่ตรงหว่างขา

“อย่าช้าได้ไหม” คนหน้าหวานเอ่ยถามเสียงเครือ ดวงตากลมโตคู่สวยที่ฉ่ำวาวไปด้วยความต้องการปรือมองคนที่ทาบทับอยู่ด้านบนอย่างยั่วยวน ในขณะที่ริมฝีปากอิ่มที่แดงช้ำก็เอื้อนเอ่ยคำร้องขอที่แทบจะทำให้คิมมยองซูต้องหยุดหายใจ

"ฉันต้องการนาย เข้ามาสักทีเถอะ”



If my body had a say, I wouldn’t turn away
Touch, make love, taste you



ปลายนิ้วเรียวที่แทรกเข้ามาร่างกายทำให้อีซองยอลเผลอขบริมฝีปากของตนเองอย่างช่วยไม่ได้ หากแต่คนด้านบนกลับยื่นนิ้วมืออีกข้างมาคลึงที่ริมฝีปากล่างของเขาจนซองยอลต้องหยุดกัดมัน

“อย่ากัดปากตัวเองสิ” เสียงกระซิบที่แหบพร่าพร้อมทั้งการขยับของปลายนิ้วที่อยู่ภายในกาย และปลายนิ้วที่เคล้าคลึงอยู่บนริมฝีปากทำให้อีซองยอลรู้สึกเหมือนกัว่าดวงตาของเขามันพร่าขึ้นมา ความาต้องการที่พุ่งขึ้นสูงเองก็ทำให้เขาเหมือนคนไร้สติ เมื่อคืนหน้าหวานตัดสินใจออกแรงผลักคนด้านบนให้ล้มลงบนที่นอนนุ่มก่อนจะตามไปทาบทับเอาไว้ไม่ให้เสียจังหวะ

คิมมยองซูหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเขาจับแกนกายของอีกฝ่ายมาจ่อที่ช่องทางของตนเองที่ถูกตระเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ แล้วเอ่ยถาม

“ทำไมวันนี้ใจร้อนจังครับ”

“ลองถามตัวเองดูเถอะ” อีซองยอลตอบกลับไปแค่นั้น ทั้งๆที่ในใจนั้นร่ายยาวถึงคำตอบเหล่านั้นได้นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้องด้วยสภาพเนื้อตัวเปียกซ่กและเสื้อผ้าที่แนบสนิทชิดกับผิวกายแบบนั้น

“คงเพราะ...หุ่นไม่ได้เรื่องนี่ล่ะมั้ง” คิมมยองซูตอบกลับมาด้วยหวังเย้าแหย่คนที่กำลังทิ้งตัวลงมาตามความยาวของจุดกึ่งกลางร่างกายของเขา ความคับแน่นของช่องทางนั้นทำให้ชายหนุ่มต้องขบกรามแน่น เหมือนกับอีซองยอลที่เปล่งเสียงครางออกมาเป็นระยะยามที่ท่อนเนื้อนนั้นเคลื่อนเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ

บทสนทนาอันแสนน้อยนิดจบลงนับตั้งแต่วินาทีที่ร่างกายของอีซองยอลรับคิมมยองซูเข้าไปได้ทั้งหมด เรือนร่างบอบบางของนายแบบหนุ่มหน้าหวานขยับขึ้นลงอยู่บนร่างของช่างกล้องชื่อดังจนคิมมยองซูต้องขบกรามแน่นพร้อมทั้งห้ามไม่ให้ตัวเองรั้งสะโพกของอีกฝ่ายเอาไว้เพื่อสวนสะโพกกลับไป

เขาจะรอจนกว่าที่อีซองยอลคนปากแข็งจะยอมร้องขออีกครั้ง

“อ-อือ มย-มยองซู ฉ-ฉัน...” เสียงหหวานที่สั่นเครือพร้อมทั้งจังหวะการขยับตัวที่ช้าลงกว่าในตอนแรกเรียกรอยยิ้มที่มุมปากของคิมมยองซูได้โดยง่าย เมื่อชายหนุ่มเห็นแล้วว่าคนสวยของเขากำลังจะยอมแพ้ต่อความต้องการของตัวเองอีกครั้ง

“ว่าไงครับ” คนหน้าหล่อเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มมือขึ้นไปตีเบาๆที่บั้นท้ายนุ่มนิ่มจนรู้สึกได้ว่าภายในร่างกายของอีซองยอลนั้นบีบรัดเขามากขึ้นกว่าเดิม

“ฉ-ฉันไม่ไหว” สิ้นคำที่คล้ายกับการยอมรับการพ่ายแพ้นั้น ร่างบอบบางของอีซองยอลก็ถูกพลิกกลับลงด้านล่างอีกครั้งพร้อมกับจังหวะการกระทั้นกายที่เกิดจากการควบคุมของคิมมยองซูที่เร่งเร้าและรุนแรงกว่าในคราแรก เป็นการบอกว่าความต้องการของคนหน้าหล่อนั้นก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

“มยองซู” เสียงหวานที่ติดจะแหบพร่าดังขึ้นชิดริมหูหลังจากที่คิมมยองซูปลดปล่อยออกมาเต็มช่องทางของอีกฝ่าย แล้วทิ้งตัวลงซบอยู่บนแผ่นอกบางเพื่อสูดเอากลิ่นหอมฟุ้งของฟีโรโมนที่อีซองยอลปล่อยออกมาลอยคลุ้งอยู่กลางอากาศ

“หืม?” คนหน้าหล่อส่งเสียงในลำคอตอบกลับไปพร้อมกับฝังจมูกลงบนผิวกายเนียนนุ่มแล้วสูดเอากลิ่นหอมหวานนั้นเข้าไปจนเต็มปอด

“อีก...ได้ไหม” ถ้อยคำสั้นๆที่มาพร้อมกับเสียงที่ติดจะไม่มั่นใจ ทั้งยังดวงตาคู่สวยที่หลุบลงเพื่อหลบสายตาของเขาในตอนที่คิมมยองซูยันตัวขึ้นไปมองหน้าอีกฝ่าย

“ไม่ต้องขอก็ไม่คิดจะปล่อยไปไหนอยู่แล้ว” ช่างกล้องหนุ่มตอบกลับไปเช่นนั้น ก่อนจะเริ่มสัมผัสร่างกายขาวผ่องที่เขาหลงใหลอีกครั้ง

ความจริง...ต่อให้อีซองยอลไม่ร้องขอ มยองซูก็คิดว่าเขาจะทำตามใจตัวเองอีกรอบอยู่แล้ว



If my body told the truth
Baby I would do, just what I want to