วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[OS] Something Simply「myungyeol」

Something Simply

Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, PG
Author: khanunys
A\N: - มีเรื่องเครียดนิดหน่อย เลยออกมาเป็นฟิคมึนๆอึนๆเรื่องนี้
- something simply เป็นชื่อร้านเบเกอรี่แถวๆมหา'ลัย
- ถ้าโอเคกับการสกรีมผ่านทวิตเตอร์ เอาแท็กนี้ไหม #knysfic สำหรับฟิคสั้นๆแบบนี้ทุกเรื่อง อัพฟิคก็จะติดแท็กนี้นะ









-somethingsimply-










อะไรที่มันธรรมดา มันจะมีอะไรน่าดึงดูดใจกัน


ใครกันหนอที่เคยพูดแบบนั้น ถ้าเป็นคนที่เขารู้จัก หรือแตะต้องได้ หรือตามหาเจอ อีซองยอลคนนี้จะตามไปตีปากสักสองสามทีเลยคอยดู เพราะในสายตาของเขา ในความธรรมดาและเรียบง่ายเหล่านั้น มันมักจะมีอะไรที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรัก


กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ -- จริงๆก็ไม่เชิงว่าไม่นานเพราะมันก็แอบนานในระดับหนึ่ง – หนุ่มน้อยนามอีซองยอลเพิ่งจะได้พบเจอกับความรัก มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว อาจจะเพราะความใกล้ชิด ความหวั่นไหว ความอ่อนโยนหรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกสิ่งแหล่านั้นมันทำให้เขาต้องตกอยู่ในห้วงที่ใครต่อใครเรียกว่าความรัก


กับคนที่ชื่อ คิมมยองซู


เรารักกัน ไม่สิ ก่อนหน้านั้นเราควรจะบอกเล่าท้าวความเสียก่อนว่าเราเริ่มรักกันที่ตรงไหน และอย่างไร


มันเริ่มต้นที่เรานั่งเรียนข้างกันที่สถานบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง ในตอนที่เราทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย มยองซูเป็นคนขยันทำให้เรียนเก่ง แต่ซองยอลไม่ใช่ ซองยอลแค่อาศัยความหัวดีแล้วเอาตัวรอดมาก็เท่านั้น แต่พอเจอใครคนนั้น เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป


ใครหลายคนก็ถามเขาว่า คิมมยองซูจืดชืดแบบนั้น ทำไมซองยอลถึงชอบไปเข้าใกล้ ช่วงแรกซองยอลตอบไม่ได้ แต่นานวันเข้าเด็กหนุ่มก็หาคำตอบเจอ มันเป็นเพราะว่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้กับมยองซู ซองยอลรู้สึกสบายใจ เด็กหนุ่มหน้าหวานชอบเหลือเกินเวลาที่ได้เห็นมยองซูยิ้มเสียจนใบหน้ายับยู่ ใครๆก็ว่ามันน่าตลก แต่ซองยอลกลับมองว่าน่ารักดี


ครั้งแรกที่ทักทายเด็กหนุ่มจืดชืดคนนั้น ซองยอลต้องรวบรวมความกล้าอยู่พักใหญ่ ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้เพียงแค่เขาไม่กล้าพอ หัวใจมันเต้นแรงขึ้นแทบทุกวินาที แถมหูก็ร้อนจนเกือบจะต้องเอามือมาปิดไว้เลย นัมอูฮยอนที่เป็นเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่อีกฝั่งถึงขั้นต้องเอาเท้ามาเตะซองยอลเพื่อเรียกสติ เขาถึงกล้าทักมยองซูไป


คิมมยองซูที่ในตอนนั้นใส่แว่นหนาเตอะ ใจดีและเป็นมิตรมากกว่าที่ซองยอลคิดไว้ เด็กหนุ่มหน้าหวานคิดมาเสมอว่าที่มยองซูไม่ค่อยพูดค่อยจาคงเป็นเพราะว่าไม่อยากจะมายุ่งเกี่ยวหรือข้องแวะอะไรกัน ทว่าในตอนที่ซองยอลขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้อีกคนมาติวหนังสือให้ช่วงสอบ มยองซูกลับให้มาง่าย


ในตอนนั้น หัวใจของเขาทั้งสองคนเต้นรัว – ซองยอลมารู้ทีหลังว่าหัวใจของมยองซูเต้นแรงเหมือนกันหลังจากที่คบกัน – พอผ่านการนัดเจอนอกรอบครั้งที่หนึ่ง การนัดเจอกันครั้งที่สองครั้งที่สามก็ตามมา และจำนวนครั้งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซองยอลเคยถามมยองซูว่าทำไมไม่คิดจะถอดแว่นมาใส่คอนแท็กเลนส์บ้างล่ะ เจ้าแว่นคนนั้นก็ตอบมาเพียงแค่สายตาสั้นเกินไป แถมไม่ชอบใส่คอนแท็กเลนส์ เด็กหนุ่มหน้าหวานก็เลยร้องของให้อีกคนถอดแว่นให้ดู ตอนแรกมยองซูก็ไม่ยอม แต่พอเขาตื๊อและงอแงใส่อีกฝ่ายก็ยอมถอดแว่นออกอย่างง่ายดาย


ใบหน้าคมคายที่แสนหล่อเหลายามปราศจากแว่นตาหน้าเตอะนั้นทำให้ซองยอลต้องรีบคว้าแว่นมาสวมคืนให้กับมยองซูในทันที มันมีอยู่สองเหตุผลที่ทำให้ซองยอลเลือกทำแบบนั้น หนึ่งเพราะว่าเขากลัวว่าหัวใจของเขาจะเต้นแรงจนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ยิน และสอง เด็กหนุ่มกลัวเหลือเกินว่าจะมีใครมาเห็นใบหน้าหล่อเหลาภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะนั้น


พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทั้งมยองซูและซองยอลมีเป้าหมายในการสอบเข้าอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เด็กหนุ่มทั้งสองคนเริ่มห่างหายกันไปหลังจากการสอบ เนื่องจากว่าพวกเขาอยู่กันคนละโรงเรียน ทำให้งานหรือกิจกรรมที่ต้องทำนั้นแตกต่างกัน อีกทั้งคอร์สเรียนพิเศษก็ปิดไปแล้วด้วย การสอบก็จบสิ้นแล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องติดต่อหรือไปมาหาสู่กันบ่อยเท่าเดิม


จนกระทั่งวันที่ผลสอบออกมา ซองยอลตรวจผลสอบแล้วพบว่าเขาสอบติดคณะและมหาวิทยาลัยที่หวังเอาไว้ หากแต่เด็กหนุ่มกลับกลุ้มใจ มือเรียวสวยกำโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กเอาไว้แน่น บนหน้าจอปรากฏเบอร์โทรศัพท์ของคิมมยองซูที่ซองยอลพร้อมจะกดโทรออกได้ทุกเมื่อ ทว่ามันติดอยู่ตรงที่ว่าเขาไม่กล้าพอ...ก็ไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วนี่


แต่แล้ว แรงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์ที่ซองยอลถือเอาไว้ก็เรียกสติของเด็กหนุ่มกลับมา ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ อีกทั้งหัวใจดวงน้อยยังสั่นไหวจนน่ากลัวเมื่อดวงตากลมโตจับจ้องไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ


มยองซูโทรมา


ซองยอลกดรับสายด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไปตามนัดแบบสายฟ้าแล่บของมยองซู ถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่สถานที่ที่มยองซูนัดเขาไปนั้นคือ ซอลทังแลนด์หรือเมืองน้ำตาล สถานที่ที่คู่รักมักจะพากันไปเดท และโชคดีที่เมื่อตอนเช้าซองยอลเพิ่งจะออกไปธุระกับคุณแม่มาพอดี ชุดที่ใส่ถึงไม่ดูน่าเกลียดหลังจากที่เด็กหนุ่มเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองวิ่งออกมาโดยไม่คิดจะตรวจดูสภาพเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองเสียก่อน


หัวใจของซองยอลเต้นแรงตอนที่เดินทางมาถึงหน้าซอลทังแลนด์แล้วเห็นว่ามยองซูกำลังยืนกอดอกอยู่ในชุดที่ทำให้อีกฝ่ายดูเท่ไม่หยอก อีกทั้งทรงผมที่เซ็ตมาเป็นอย่างดีกับใบหน้าหล่อเหลาที่ปราศจากแว่นตานั่นอีก สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ทำให้ซองยอลรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังจะละลาย


พงกเขาเข้าไปเดินเล่นภายในซอลทังแลนด์ พร้อมกับพูดคุยเรื่องของผลสอบ โชคดีเหลือเกินที่ทั้งสองคนสอบติดในคณะและมหาวิทยาลัยที่หวังไว้เช่นเดียวกัน ซองยอลพูดแสดงความยินดีกับมยองซู อีกคนก็ทำเช่นเดียวกัน ดวงตะวันเริ่มจะลาลับขอบฟ้าบอกว่าเป็นเวลาเย็นย่ำ เด็กหนุ่มหน้าหวานจำต้องเอ่ยบอกลามยองซู หากแต่น้ำเสียงทุ้มนุ่ม และคำพูดที่ทำให้ใจเต้นแรงนั้นกลับหยุดร่างของซองยอลเอาไว้ได้อย่างเฉียบพลัน


ซองยอล ฉันชอบนายนะ


ซองยอลยิ้มจนแก้มแทบปริ ก่อนที่เขาจะหันไปตอบอีกคนบ้าง


ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน


เราคบกันวันนั้น จนถึงวันนี้ ผ่านมาราวสามปีเห็นจะได้ มยองซูก็ยังคงเป็นมยองซูที่ดูจืดชืดเพราะไม่สนใจเรื่องรอบกาย ไม่ชอบตีสนิทกับใคร แถมยังตีตัวออกห่างทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้เพราะมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ทำให้มยองซูจำเป็นต้องถอดแว่นแล้วมีคนมาหลงสเน่ห์ เช่นเดียวกัน ซองยอลก็ยังคงเป็นซองยอลที่น่ารักและมีมนุษยสัมพันธ์ดีตลอด


หลายคนเคยพูดว่าทำไมมยองซูกับซองยอลถึงคบกันได้นานขนาดนี้ ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่มีอะไรหวือหวาให้น่าตื่นเต้น หากแต่พวกเขาสองคนกลับมองว่า ในความเรียบง่ายและธรรมดานี้กลับมีความพิเศษของมันอยู่ ความรู้สึกของพวกเขามันก็เป็นเพียงแค่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้มีความพิเศษเลิศเลอเกินใคร แค่เพียงเราสองคนรับรู้ถึงมันได้ก็เพียงพอ


ใครจะพูดอะไรยังไงซองยอลก็ไม่สนใจ เพราะเขาคิดเสมอว่า


Something simply is a thing that is special by itself.


END.

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557