Something Simply
Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, PG
Author: khanunys
A\N: - มีเรื่องเครียดนิดหน่อย เลยออกมาเป็นฟิคมึนๆอึนๆเรื่องนี้
- something simply เป็นชื่อร้านเบเกอรี่แถวๆมหา'ลัย
- ถ้าโอเคกับการสกรีมผ่านทวิตเตอร์ เอาแท็กนี้ไหม #knysfic สำหรับฟิคสั้นๆแบบนี้ทุกเรื่อง อัพฟิคก็จะติดแท็กนี้นะ
- something simply เป็นชื่อร้านเบเกอรี่แถวๆมหา'ลัย
- ถ้าโอเคกับการสกรีมผ่านทวิตเตอร์ เอาแท็กนี้ไหม #knysfic สำหรับฟิคสั้นๆแบบนี้ทุกเรื่อง อัพฟิคก็จะติดแท็กนี้นะ
-somethingsimply-
อะไรที่มันธรรมดา
มันจะมีอะไรน่าดึงดูดใจกัน
ใครกันหนอที่เคยพูดแบบนั้น
ถ้าเป็นคนที่เขารู้จัก หรือแตะต้องได้ หรือตามหาเจอ
อีซองยอลคนนี้จะตามไปตีปากสักสองสามทีเลยคอยดู เพราะในสายตาของเขา ในความธรรมดาและเรียบง่ายเหล่านั้น
มันมักจะมีอะไรที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรัก
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
-- จริงๆก็ไม่เชิงว่าไม่นานเพราะมันก็แอบนานในระดับหนึ่ง – หนุ่มน้อยนามอีซองยอลเพิ่งจะได้พบเจอกับความรัก
มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว อาจจะเพราะความใกล้ชิด
ความหวั่นไหว ความอ่อนโยนหรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกสิ่งแหล่านั้นมันทำให้เขาต้องตกอยู่ในห้วงที่ใครต่อใครเรียกว่าความรัก
กับคนที่ชื่อ
คิมมยองซู
เรารักกัน
ไม่สิ ก่อนหน้านั้นเราควรจะบอกเล่าท้าวความเสียก่อนว่าเราเริ่มรักกันที่ตรงไหน
และอย่างไร
มันเริ่มต้นที่เรานั่งเรียนข้างกันที่สถานบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง
ในตอนที่เราทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย
มยองซูเป็นคนขยันทำให้เรียนเก่ง แต่ซองยอลไม่ใช่
ซองยอลแค่อาศัยความหัวดีแล้วเอาตัวรอดมาก็เท่านั้น แต่พอเจอใครคนนั้น
เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ใครหลายคนก็ถามเขาว่า
คิมมยองซูจืดชืดแบบนั้น ทำไมซองยอลถึงชอบไปเข้าใกล้ ช่วงแรกซองยอลตอบไม่ได้
แต่นานวันเข้าเด็กหนุ่มก็หาคำตอบเจอ มันเป็นเพราะว่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้กับมยองซู
ซองยอลรู้สึกสบายใจ
เด็กหนุ่มหน้าหวานชอบเหลือเกินเวลาที่ได้เห็นมยองซูยิ้มเสียจนใบหน้ายับยู่
ใครๆก็ว่ามันน่าตลก แต่ซองยอลกลับมองว่าน่ารักดี
ครั้งแรกที่ทักทายเด็กหนุ่มจืดชืดคนนั้น
ซองยอลต้องรวบรวมความกล้าอยู่พักใหญ่ ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้เพียงแค่เขาไม่กล้าพอ
หัวใจมันเต้นแรงขึ้นแทบทุกวินาที แถมหูก็ร้อนจนเกือบจะต้องเอามือมาปิดไว้เลย
นัมอูฮยอนที่เป็นเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่อีกฝั่งถึงขั้นต้องเอาเท้ามาเตะซองยอลเพื่อเรียกสติ
เขาถึงกล้าทักมยองซูไป
คิมมยองซูที่ในตอนนั้นใส่แว่นหนาเตอะ
ใจดีและเป็นมิตรมากกว่าที่ซองยอลคิดไว้ เด็กหนุ่มหน้าหวานคิดมาเสมอว่าที่มยองซูไม่ค่อยพูดค่อยจาคงเป็นเพราะว่าไม่อยากจะมายุ่งเกี่ยวหรือข้องแวะอะไรกัน
ทว่าในตอนที่ซองยอลขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้อีกคนมาติวหนังสือให้ช่วงสอบ
มยองซูกลับให้มาง่าย
ในตอนนั้น
หัวใจของเขาทั้งสองคนเต้นรัว – ซองยอลมารู้ทีหลังว่าหัวใจของมยองซูเต้นแรงเหมือนกันหลังจากที่คบกัน
– พอผ่านการนัดเจอนอกรอบครั้งที่หนึ่ง การนัดเจอกันครั้งที่สองครั้งที่สามก็ตามมา
และจำนวนครั้งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซองยอลเคยถามมยองซูว่าทำไมไม่คิดจะถอดแว่นมาใส่คอนแท็กเลนส์บ้างล่ะ
เจ้าแว่นคนนั้นก็ตอบมาเพียงแค่สายตาสั้นเกินไป แถมไม่ชอบใส่คอนแท็กเลนส์
เด็กหนุ่มหน้าหวานก็เลยร้องของให้อีกคนถอดแว่นให้ดู ตอนแรกมยองซูก็ไม่ยอม
แต่พอเขาตื๊อและงอแงใส่อีกฝ่ายก็ยอมถอดแว่นออกอย่างง่ายดาย
ใบหน้าคมคายที่แสนหล่อเหลายามปราศจากแว่นตาหน้าเตอะนั้นทำให้ซองยอลต้องรีบคว้าแว่นมาสวมคืนให้กับมยองซูในทันที
มันมีอยู่สองเหตุผลที่ทำให้ซองยอลเลือกทำแบบนั้น หนึ่งเพราะว่าเขากลัวว่าหัวใจของเขาจะเต้นแรงจนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ยิน
และสอง
เด็กหนุ่มกลัวเหลือเกินว่าจะมีใครมาเห็นใบหน้าหล่อเหลาภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะนั้น
พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทั้งมยองซูและซองยอลมีเป้าหมายในการสอบเข้าอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
เด็กหนุ่มทั้งสองคนเริ่มห่างหายกันไปหลังจากการสอบ
เนื่องจากว่าพวกเขาอยู่กันคนละโรงเรียน
ทำให้งานหรือกิจกรรมที่ต้องทำนั้นแตกต่างกัน
อีกทั้งคอร์สเรียนพิเศษก็ปิดไปแล้วด้วย การสอบก็จบสิ้นแล้ว
มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องติดต่อหรือไปมาหาสู่กันบ่อยเท่าเดิม
จนกระทั่งวันที่ผลสอบออกมา
ซองยอลตรวจผลสอบแล้วพบว่าเขาสอบติดคณะและมหาวิทยาลัยที่หวังเอาไว้
หากแต่เด็กหนุ่มกลับกลุ้มใจ มือเรียวสวยกำโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กเอาไว้แน่น
บนหน้าจอปรากฏเบอร์โทรศัพท์ของคิมมยองซูที่ซองยอลพร้อมจะกดโทรออกได้ทุกเมื่อ ทว่ามันติดอยู่ตรงที่ว่าเขาไม่กล้าพอ...ก็ไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วนี่
แต่แล้ว
แรงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์ที่ซองยอลถือเอาไว้ก็เรียกสติของเด็กหนุ่มกลับมา
ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ
อีกทั้งหัวใจดวงน้อยยังสั่นไหวจนน่ากลัวเมื่อดวงตากลมโตจับจ้องไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
มยองซูโทรมา
ซองยอลกดรับสายด้วยความตื่นเต้น
ก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไปตามนัดแบบสายฟ้าแล่บของมยองซู
ถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่สถานที่ที่มยองซูนัดเขาไปนั้นคือ
ซอลทังแลนด์หรือเมืองน้ำตาล สถานที่ที่คู่รักมักจะพากันไปเดท และโชคดีที่เมื่อตอนเช้าซองยอลเพิ่งจะออกไปธุระกับคุณแม่มาพอดี
ชุดที่ใส่ถึงไม่ดูน่าเกลียดหลังจากที่เด็กหนุ่มเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองวิ่งออกมาโดยไม่คิดจะตรวจดูสภาพเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองเสียก่อน
หัวใจของซองยอลเต้นแรงตอนที่เดินทางมาถึงหน้าซอลทังแลนด์แล้วเห็นว่ามยองซูกำลังยืนกอดอกอยู่ในชุดที่ทำให้อีกฝ่ายดูเท่ไม่หยอก
อีกทั้งทรงผมที่เซ็ตมาเป็นอย่างดีกับใบหน้าหล่อเหลาที่ปราศจากแว่นตานั่นอีก สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ทำให้ซองยอลรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังจะละลาย
พงกเขาเข้าไปเดินเล่นภายในซอลทังแลนด์
พร้อมกับพูดคุยเรื่องของผลสอบ โชคดีเหลือเกินที่ทั้งสองคนสอบติดในคณะและมหาวิทยาลัยที่หวังไว้เช่นเดียวกัน
ซองยอลพูดแสดงความยินดีกับมยองซู อีกคนก็ทำเช่นเดียวกัน
ดวงตะวันเริ่มจะลาลับขอบฟ้าบอกว่าเป็นเวลาเย็นย่ำ
เด็กหนุ่มหน้าหวานจำต้องเอ่ยบอกลามยองซู หากแต่น้ำเสียงทุ้มนุ่ม
และคำพูดที่ทำให้ใจเต้นแรงนั้นกลับหยุดร่างของซองยอลเอาไว้ได้อย่างเฉียบพลัน
‘ซองยอล ฉันชอบนายนะ’
ซองยอลยิ้มจนแก้มแทบปริ
ก่อนที่เขาจะหันไปตอบอีกคนบ้าง
‘ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน’
เราคบกันวันนั้น
จนถึงวันนี้ ผ่านมาราวสามปีเห็นจะได้
มยองซูก็ยังคงเป็นมยองซูที่ดูจืดชืดเพราะไม่สนใจเรื่องรอบกาย ไม่ชอบตีสนิทกับใคร
แถมยังตีตัวออกห่างทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้เพราะมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ทำให้มยองซูจำเป็นต้องถอดแว่นแล้วมีคนมาหลงสเน่ห์
เช่นเดียวกัน ซองยอลก็ยังคงเป็นซองยอลที่น่ารักและมีมนุษยสัมพันธ์ดีตลอด
หลายคนเคยพูดว่าทำไมมยองซูกับซองยอลถึงคบกันได้นานขนาดนี้
ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่มีอะไรหวือหวาให้น่าตื่นเต้น หากแต่พวกเขาสองคนกลับมองว่า
ในความเรียบง่ายและธรรมดานี้กลับมีความพิเศษของมันอยู่
ความรู้สึกของพวกเขามันก็เป็นเพียงแค่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้มีความพิเศษเลิศเลอเกินใคร
แค่เพียงเราสองคนรับรู้ถึงมันได้ก็เพียงพอ
ใครจะพูดอะไรยังไงซองยอลก็ไม่สนใจ
เพราะเขาคิดเสมอว่า
Something
simply is a thing that is special by itself.
END.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น