วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

[OS] Chance ☆ dooseob

Chance

Paring: doojun x yoseob
Genre: AU, one shot
Rate: PG
Author: khanunys
A\N: - 
#knysfic









Even though I’m letting go right now, I’m letting go of you, even though everything has stopped.
I believe that the broken clock will move again.
(12:30 – Beast)






ใครหลายคนได้กล่าวเอาไว้ว่า ในวันหนึ่งหากได้จบความสัมพันธ์กับใครบางคนไปแล้ว มันก็ยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ครั้งหนึ่งเขาเคยเชื่อกับคำพูดคำนั้น



ทว่าในวันหนึ่ง เมื่อโชคชะตาได้เหวี่ยงเขาและใครคนนั้นให้กลับมาพบกันอีกครั้ง มันได้กลายเป็นเรื่องราวเรื่องใหม่ที่ถูกเขียนขึ้นอีกครั้ง เป็นเหมือนกับนาฬิกาที่ครั้งหนึ่งมันเคยตายไปแต่แล้วมันกลับเดินได้อีกครั้ง


.


.


.



ร่างเล็กของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินอย่างเหม่อลอยไปตามทางเดินภายในสวนสาธารณะ หูฟังสีขาวถูกเสียบเอาไว้ที่หูของเจ้าตัว รอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ยังโยซอบกำลังตกอยู่ในห้วงของเสียงเพลง เจ้าของใบหน้าน่ารักหันไปแย้มรอยยิ้มให้กับเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่นไปมาจนมาชนเขาอย่างไม่ถือสา ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไป



“อ๊ะ ขอโทษครับ” คนตัวเล็กค้อมศีรษะให้กับคนที่บังเอิญชนอย่างมีมารยาท โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี โยซอบก้าวขาเพื่อจะเดินต่อไปข้างหน้า หากแต่แรงรั้งที่ต้นแขนก็ทำให้เขาต้องหยุดเดิน ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆมองไล่จากมือที่จับแขนของเขาอยู่จนไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเจ้าของมือนั้น



“ดูจุน...” เสียงแผ่วเบาที่หลุดรอดออกจากริมฝีปากนั้นเบายิ่งกว่าเสียงกระซิบด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นเจ้าของชื่อก็ยังคงแย้มยิ้มออกมาให้กับท่าทางที่เต็มไปด้วยความตกใจของคนตัวเล็ก



“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสียงทุ้มที่เคยคุ้นหูนั้นก็ยังคงเป็นเหมือนกับในวันวาน โยซอบคิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป หรือจะพูดให้ถูกก็คือเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไรออกไปต่างหาก



“ก็คงใช่” สุดท้ายแล้วยังโยซอบก็จำต้องพึมพำออกไปเบาๆ คนตัวเล็กเฝ้าภาวนาอยู่ในใจว่า ขอใก้ยุนดูจุนปล่อยมือออกจากต้นแขนของเขาเสียที เลิกชวนเขาคุยเสียที



“ว่างหรือเปล่า” ดูจุนถาม “ไปดื่มกาแฟเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”



ยังโยซอบตั้งใจเอาไว้เป็นอย่างมากว่าจะตอบปฏิเสธ หากแต่สุดท้ายแล้ว คำตอบของเขากลับกลายเป็น...



“อื้ม ไปสิ”















ยังโยซอบไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะเป็นคนที่มั่นคงกับใจของตัวเองได้ขนาดนี้ ถึงแม้เขาจะเฝ้าคิดว่ามันไม่สมควร หรือเขาควรจะต่อว่าดูจุน พยายามที่จะผลักไสอีกคนให้ไปไกลๆ แต่สุดท้ายแล้วเขากลับเลือกทำตามความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึกๆภายในหัวใจของตัวเองเสียอย่างนั้น



“ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะ” คนหน้าหล่อที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ด้วยท่าทีที่แสนผ่อนคลาย ต่างจากยังโยซอบที่ทำได้เพียงแค่ก้มมองมือของตัวเองเท่านั้น



“อือ ก็ใช่”



“ดูท่าแล้วนายไม่ค่อยอยากจะมากับฉันสักเท่าไหร่นะ” น้ำเสียงที่เจือความผิดหวังเล็กน้อยของดูจุนทำให้โยซอบต้องเงยหน้าขึ้นมามอง คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาเป็นการรปฏิเสธคำพูดของอีกคนในทันที



เขาจะบอกดูจุนอย่างไรดี ว่าแค่ได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายแม้เพียงแค่เสี้ยวเดียว หัวใจของเขามันก็เต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก คำพูดพร่ำรำพันมากมายที่เคยเผลอคิดเอาไว้ก็เช่นกัน โยซอบเกือบจะหลุดพูดมันออกไป ทั้งๆที่เขาไม่มีสิทธิ์



“ฉันคิดถึงนายมากเลยนะ” เสียงทุ้มนุ่มหูของยุนดูจุนดังขึ้นอีกครั้ง และประโยคนั้นก็ทำให้คนฟังต้องเบิกตาด้วยความตกใจ “จริงๆนะโยซอบ ทั้งๆที่เราเลิกกันไปตั้งนานแล้ว แต่ฉันก็ยังคิดถึงนาย”



“อย่าพูดล้อเล่นเลยน่า” โยซอบว่าพลางโบกมือปัดไปปัดมา คนตัวเล็กหัวเราะเบาๆเป็นการบอกว่าเขาไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของอีกคนเท่าไรนัก ทั้งๆที่ความจริงแล้ว หัวใจของเขามันเต้นแรงด้วยความดีใจจนเขารู้สึกกลัว



...กลัวว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจะได้ยิน



“ฉันพูดจริงๆนะ” ดูจุนย้ำ ทั้งน้ำเสียงและแววตาดูหนักแน่นจนมือที่กำลังหยิบแก้วกาแฟของโยซอบต้องหยุดนิ่ง “ตั้งแต่เราเลิกกันไป ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะไม่คิดถึงนาย”



“แต่เรื่องของเรามันจบไปแล้วนะ...” โยซอบพูด “นายเป็นคนทำให้มันจบเอง แล้วตอนนี้ทำไมถึงพูดแบบนี้”



“ฉันก็แค่....” ดูจุนพยายามที่จะพูด



“พอเถอะดูจุน” คนตัวเล็กพูดขัดขึ้น ก่อนที่โยซอบจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาสะพาย “ฉันไม่อยากจะเจ็บปวดเหมือนในวันนั้นอีกแล้ว นายคงไม่รู้ว่าแผลที่นายทิ้งไว้ให้ฉัน มันทั้งใหญ่และเจ็บปวด”



ยังโยซอบวาดรอยยิ้มอ่อนๆขึ้นบนใบหน้า ก่อนจะพูดทิ้งท้าย “”นาฬิกาที่มันตายไปแล้วถึงแม้ว่าวันหนึ่งมันจะกลับมาเดินได้ แต่นาฬิกาของเรามันยังไม่สามารถเดินได้อีกครั้งหรอกนะ”



คนตัวเล็กก้าวเท้าเดินออกไปได้ไม่ไกลเท่าไรนัก เพราะร่างสูงของยุนดูจุนที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้า ก่อนที่อีกฝ่ายจะโอบกอดร่างของเขาเอาไว้ในอ้อมแขน จนโยซอบต้องร้องไห้ออกมา



เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาคิดถึงอ้อมกอดของดูจุนมากขนาดไหน



“ฉันรู้ว่านายยังไม่พร้อม” เสียงกระซิบนั้นฝังลึกลงไปภายในหัวใจของเขา “แต่ขอเถอะนะ ขอโอกาสให้ฉันอีกสักครั้ง ขอให้ฉันได้เป็นคนซ่อมนาฬิกาเรือนนั้นเพื่อให้เวลาของเราได้เริ่มเดินอีกครั้งเถอะนะ”



ยังโยซอบคิดมาตลอดว่าเขาเป็นคนใจแข็ง แต่มันคงไม่ใช่กับเรื่องของยุนดูจุน



เพราะคำตอบที่เขามอบให้กับอีกคน คือการพยักหน้า



End.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น