วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[OS] Eyes, nose, lips ☊ myungyeol

Eyes, nose, lips

Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, One-shot, Awkward
Rating: PG
Author: khanunys
A\N: - ชั่ววูบกว่านี้มีอีกไหม เขารู้หมดว่าฟังเพลงแล้วเกิดเป็นฟิค 5555
- ถ้าโอเคกับการสกรีมผ่านทวิตเตอร์ #knysfic สำหรับฟิคสั้นๆแบบนี้ทุกเรื่อง อัพฟิคก็จะติดแท็กนี้นะ



















And your eyes, nose, lips, it’s haunted my memories.
I can’t forget you if I try.




ลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาผ่านทางหน้าต่างที่เจ้าของห้องได้เปิดเอาไว้ ทำให้ร่างบอบบางของเจ้าของห้องชุดสุดหรูต้องขดตัวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับตนเอง ใบหน้าสวยหวานเรียบเฉยราวกับไร้ความรู้สึก ในขณะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของความทรงจำครั้งเก่า



เสียงเพลงที่เปิดทิ้งเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาเบดลอยมาตามลม และมันก็สามารถเรียกสติของคนหน้าหวานให้กลับมาได้ในทันที



อีซองยอลผุดลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันแน่นอย่างนึกหงุดหงิดในตัวเอง หงุดหงิดเสียจนต้องยกมือขึ้นมีขยี้กลุ่มผมของตนเองเสียจนยุ่งเหยิง เมื่อความทรงจำเกี่ยวกับใครบางคนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ ไม่หายไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว



ทั้งๆที่อีซองยอลคนนี้เองนั่นแหละที่บอกให้คนคนนั้นเดินจากเขาไปเสีย



...คิมมยองซู...



เมื่อไม่กี่วันก่อน อีซองยอลเพิ่งจะบอกเลิกแฟนหนุ่มที่เขาคบมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยไป เพราะซองยอลทนไม่ไหวกับความเจ้าชู้ของคิมมยองซูแฟนเก่าของตัวเอง ทนไม่ไหวที่ต้องฟังคำโกหกที่อีกฝ่ายใช้แก้ตัวเพื่อให้มันยังมีคำว่า เรา อยู่



ซองยอลรักมยองซูมาก เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่ามยองซูเองก็รักเขามากเช่นเดียวกัน แต่ความสัมพันธ์ฉันคนรักแบบนี้ ถ้าหากใครคนใดคนหนึ่งไม่มีความมั่นคง และเอาแต่โกหกเพื่อปิดบังความผิดของตนเอง จากที่ทนได้เสมอมันก็เปลี่ยนเป็นทนไม่ไหว จากที่คิดว่าจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดไปมันก็กลายเป็นสั่นคลอน



หลุมดำในใจที่ซ่อนเอาไว้จากที่มันมีขนาดเล็ก มันก็หลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป



.



.



.




“คิดจะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเหรอ มยองซู” ซองยอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ในขณะที่เขาทั้งสองกำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารประจำของพวกเขา คิมมยองซูเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของซองยอลด้วยความสงสัย “ที่มีคนอื่นแล้วมาคอยโกหกฉันว่ามันไม่มีอะไรน่ะ จะทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเหรอ”



คิมมยองซูหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะคว้ามือของซองยอลไปจับเอาไว้เหมือนเคย



“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ” คนหน้าหล่อเอ่ยถามพร้อมกับคลึงผิวเนื้อที่มือของเขาไปด้วย “ที่ฉันบอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไรจริงๆ”



“จะทำให้ฉันเป็นเหมือนคนโง่ไปอีกนานแค่ไหนเหรอ” เสียงของเขาแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความอดทนที่ซองยอลมีตลอดมาลดลงจนน่าใจหาย ความเข้าใจที่มีให้คนตรงหน้าเสมอมาลดลงจนซองยอลเอายังอดตกใจไม่ได้ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กับคำโกหกหลอกลวงเดิมๆ มันทำให้ซองยอลอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแบบนั้น



เขามีหัวใจ มีความรู้สึก และหัวใจดวงนี้มันกำลังถูกทำลายด้วยมือของเจ้าของหัวใจทีละน้อย



ซองยอลรักตัวเองมากพอที่จะถอยออกมา ไม่ให้เขาต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้



“ซองยอล...”



“ฉันไม่อยากจะฟังคำโกหกของนายอีกต่อไปแล้ว คิมมยองซู” ซองยอลพูดเสียงเบา แต่หนักแน่น “นายไม่จำเป็นต้องมาโกหกฉันอีกต่อไป เพราะเราจะจบกันตั้งแต่ตอนนี้...”



“เรารักกันไม่ใช่เหรอ ซองยอล” คำถามของมยองซูเรียกให้ดวงตากลมสวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาได้อย่างง่ายดาย



“ใช่ เรารักกัน” ซองยอลตอบ “แต่แค่ความรักมันไม่พอหรอกนะมยองซู หัวใจของฉันมันไม่ได้แข็งแรงมากพอที่จะทนให้นายทำร้ายแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า”



“ขอร้องล่ะซองยอล” เสียงของมยองซูสั่นเครือจนซองยอลใจหาย “เชื่อฉันอีกสักครั้งเถอะนะ มันไม่มีอะไรจริงๆ”



“ฉันก็อยากจะเชื่อนาย... แต่ฉันขอโทษนะที่ไม่สามารถเชื่อคำพูดของนายได้อีกต่อไปแล้ว” ซองยอลดึงมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของมยองซู ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินจากไปก่อนที่น้ำตาของเขาจะไหลออกมา “เราจบกันแค่นี้เถอะนะ”



.



.



.



อีซองยอลได้แต่ส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความสมเพชตัวเองออกมา หลังจากที่ภาพใบหน้าของมยองซูได้ลอยกลับเข้ามาในความคิดของเขาอีกครั้ง



ดวงตาคมคู่นั้นที่คอยจ้องมองเขาอย่างอ่อนโยนและเปียมไปด้วยความรัก ดวงตาที่ไม่ว่าจะหันไปมองเมื่อไร ซองยอลก็มักจะพบว่ามยองซูกำลังจ้องมองเขาอยู่เสมอ ...แต่ในตอนนี้ซองยอลกลับพบเจอเพียงแค่ความว่างเปล่า



จมูกโด่งที่เจ้าของมันมักจะฝังมันลงบนไหล่และแก้มของเขา รวมไปถึงในยามที่มยองซูมอบความรักให้กับเขา ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดบนผิวกายของเขา ...ในตอนนี้ซองยอลกลับพบเจอเพียงลมหนาวที่ทำให้เขาสั่นสะท้าย



ริมฝีปากได้รูปที่มักจะชวนเขาคุย แย้มยิ้มและส่งเสียงหัวเราะออกมาในตอนที่เรามีความสุขด้วยกัน ริมฝีปากร้อนผ่าวที่มักจะประทับลงไปทั้งบนริมฝีปากและเรือนร่างของเขา ...แต่ในตอนนี้ซองยอลสัมผัสได้เพียงแค่อากาศแผ่วเบาที่ล้อมรอบตัวเขาอยู่



...แค่นั้นเอง



ซองยอลยอมรับว่าเขาคิดถึงมยองซู ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นคนคนนั้น คนหน้าหวานไม่สามารถลบเลือนมันออกไปได้เลย ตั้งแต่วันนั้นที่เขาเป็นคนเลือกที่จะจบความสัมพันธ์กับมยองซู แต่สุดท้ายแล้วอีซองยอลคนนี้ก็ต้องมานั่งเสียใจกับความว่างเปล่าที่ต้องเผชิญเพียงลำพัง



เขาไม่รู้ว่าในตอนนี้มยองซูจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า สิ่งเดียวที่ซองยอลรู้ก็คือเขาคิดถึงคิมมยองซูจับใจ และความทรงจำที่มีร่วมกันระหว่างเขากับมยองซูนั้นมันยังคงหลอกหลอนซองยอลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แทบทุกวินาทีเลยด้วยซ้ำ คนหน้าหวานได้ปต่ยกยิ้มเยาะเย้ยตนเองพร้อมๆกับปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา การบอกให้มยองซูเดินจากไปมันไม่ต่างอะไรกับการทิ้งขว้างหัวใจของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว



เพราะในตอนนี้ที่ไม่มีคิมมยองซู อีซองยอลก็ไม่ต่างจากคนที่ไม่มีหัวใจ






And your eyes, nose, lips, it’s haunted my memories.
I can’t forget you if I die.

Feels like I’m losing my mind.





end.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น