วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

[SSeries] 2nd - Want to want me {myungyeol}

2nd - Want to want me
Pairing: kimmyungsoo x leesungyeol
Genre: AU, Sexy
Author: khanunys

A/N: - เรามีชื่อใหม่ของซีรี่ส์นี้มานำเสนอ Fifty shades of L เมดบายเป็ดโก้ย 55555555555
- Characters based on last chapter
- อ้อ แล้วก็อย่าทำเราเก้อสิคะคนดี เดี๋ยวหยุดเขียนขึ้นมาแบบที่เคยพูดไว้คราวนั้น ไม่กลับมาแบบนี้แล้วนะ :)
สกรีมมิ่งแอท #MY_SSeries นะคะคนดี




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ driving
Cr: www.whosdrivingyou.org







You’re the one I want to want me
And if you want me, boy, you got me


รถยนต์คันหรูสีดำขลับกำลังวิ่งอยู่บนถนนด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ถึงแม้ความเร็วของรถจะเร็วสักเท่าไรก็ดูเหมือนจะเทียบไม่ได้เลยกับความร้อนรุ่มของคนภายในรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มเจ้าของรถที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ ผู้ซึ่งกำลังอดทนกับมือบอบบางที่ดูซุกซนไม่น้อยของตุ๊กตาหน้ารถในวันนี้

“ซองยอล อย่าซน” คิมมยองซูจำต้องกัดฟันพูดเมื่อมือเล็กของชายหนุ่มหน้าหวานนั่นเลื่อนจากที่วางอยู่ตรงเข้าขึ้นมาอยู่ที่ต้นขาซึ่งใกล้กับร่างกายที่กำลังร้อนผ่าวของเขา

“แค่นี้ก็ทนไม่ไหวซะแล้ว” อีซองยอลพูดต่อด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนที่อีกฝ่ายจะหันหน้ากลับไปมองท้องถนนที่โล่งกว่าในยามปกติ

แน่สิ ก็ตอนนี้เวลาเดินเข้าสู่วันใหม่ไปเสียแล้ว หากแต่อีซองยอล นายแบบหนุ่มหน้าหวานที่ช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมกลับเพิ่งเลิกงานพร้อมๆกับคิมมยองซู ช่างกล้องสุดหล่อที่ใครๆก็อยากร่วมงานด้วยยังเดินทางกลับไม่ถึงห้องของคิมมยองซูเลย

ฟังไม่ผิดหรอก ห้องของคิมมยองซูนั่นแหละ

คืนนี้เป็นคืนแรกหลังจากคืนสุดท้ายที่เขาได้ไปค้างที่ห้องของอีกคน ตอนแรกซองยอลก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเดินทางกลับคอนโดของตัวเองโดยให้พี่ผู้จัดการไปส่ง หากแต่ใครบางคนที่เป็นผู้ร่วมงานในวันนี้กลับบอกปัดผู้จัดการส่วนตัวของเขาว่าขออาสาไปส่งซองยอลตอนเลิกงานเอง พอรู้แบบนั้นอีซองยอลก็รู้ตัวเลยว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้พักอย่างที่ใจนึกสักเท่าไร

“ไปห้องนายนี่ฉันจะได้พักผ่อนกับเขาไหม” ซองยอลบ่นออกมาเสียงเบา ก็เพราะทุกครั้งที่โดนอีกฝ่ายหิ้วกลับห้องเขาไม่เคยได้พักเลยน่ะสิ

“อย่าถามอะไรที่รู้คำตอบอยู่แล้วได้หรือเปล่า” คิมมยองซูตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก และการเร่งให้รถคันสวยแล่นไปตามท้องถนนด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อีซองยอลทำได้เพียงหันไปมองค้อนเพียงชั่วครู่พร้อมกับตัดพ้ออย่างไม่จริงจังเท่าไรนัก

“นายกำลังทำให้ฉันดูเหมือนคนใจง่ายที่นอนกับใครก็ได้นะรู้ไหม”

“เพราะฉันรู้ไงว่านายไม่ใช่คนแบบนั้น”


I got your body on my mind, I want it bad
Just one thought of you gets me so high


ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบเข้าหากันในทันทีที่คิมมยองซูดันประตูห้องของตัวเองจนมันปิดสนิท ปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อยๆไล่เลียไปตามกลีบปากของนายแบบหนุ่มหน้าหวานที่ยอมเผยอริมฝีปากออกเพื่อรับสัมผัสของเขาอย่างไม่ขัดขืน

เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ติดกายทั้งเขาและอีซองยอลถูกถอดเอาไว้ตลอดทางเดินมายังห้องนอน ก่อนจะจบลงบนเตียงนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิที่ร้อนแรงเหมือนกับทุกที

ผิวกายขาวเนียนขึ้นสีระเรื่อตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ใบหน้าหวานของอีซองยอลที่เชิดขึ้นน้อยๆในตอนที่คิมมยองซูก้มลงสัมผัสซอกคอหอมกรุ่นนั้นเชิญชวนให้คนที่ควรจะหลงใหลกับการลองลิ้มชิมรสผิวกายนั้นจำต้องเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะต้องเป็นฝ่ายรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวเสียเอง

เพราะใบหน้าหวานที่ในตอนนี้กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อนั้นรับกับริมฝีปากเจ่อแดงที่เกิดจากการถูกเขาบดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยังดวงตาคู่สวยที่ปรือตามองเขาด้วยนัยน์ตาที่ฉ่ำน้ำนั่นอีก คิมมยองซูไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าความต้องการของเขาที่มีต่ออีซองยอลนั้นมันกำลังพุ่งสูงและดูเหมือนว่าจะยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง...จนกว่าจะได้รับการปลดปล่อย

ชายหนุ่มหน้าหล่อรั้งเรียวขาทั้งสองข้างให้ชันขึ้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง คิมมยองซูในตอนนี้แทบไม่คิดจะอารัมภบทใดๆเสียแล้ว เขารู้เพียงแค่ว่าในตอนนี้เขาต้องการอีซองยอลมาก มากเกินกว่าที่ใครจะคาดเดา และในขณะที่คิดเช่นนั้น มยองซูก็ล่วงล้ำร่างกายของอีกฝ่ายด้วยปลายนิ้วจนออีซองยอลต้องหลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ฮื้อ ท-ทำไม”

“ไม่มีอะไร” มยองซูโน้มตัวลงไปกระซิบเสียงนุ่ม พร้อมกับกดจูบหนักๆที่ข้างแก้มของอีกฝ่ายในขณะที่ปลายนิ้วก็ขยับขยับเพื่อที่ช่องทางนั้นจะได้รองรับเรือนกายของเขาได้โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องทรมาน

“ฉันแค่ต้องการนายมากไปหน่อย”


You’re the one I want to want me
And if you want me, boy, you got me


คิมมยองซูพูดไปแค่นั้นทั้งๆที่เขาก็มีคำถามอยู่ในใจว่าอีซองยอลนั้นต้องการเขาอย่างที่เขาต้องการอีกฝ่ายหรือเปล่า

“ถ-ถ้าอย่างนั้น...” คนหน้าหวานพูดเสียงพร่า ให้มยองซูต้องหันไปสบตา ก่อนจะรับฟังคำพูดที่ทำให้เส้นความอดทนของเขาขาดผึงลง

“เข้ามาเถอะ ฉันเองก็ต้องการนายเหมือนกัน”

สิ้นคำพูดนั้น คิมมยองซูก็ดึงมือของตัวเองออกจากช่องทางอ่อนนุ่มของอีซองยอลเพื่อเปลี่ยนเป็นจุดกึ่งกลางร่างกายของเขาที่มันร่ำร้องว่าอยากจะเข้าไปสัมผัสส่วนที่ลึกที่สุดของอีกฝ่ายแล้ว อยากจะเข้าไปดื่มด่ำกับทุกความรู้สึกที่เขาได้รับจากร่างกายของคนใต้ร่างเหมือนกับทุกครั้ง

คิมมยองซูหอบหายใจหนักในตอนที่เขาประคองแกนกายอันแข็งขืนของตัวเองให้สอดเข้าไปภายในร่างกายของอีซองยอลที่บีบรัดอย่างหนักหน่วงแม้ร่างกายของเขาจะเข้าไปได้เพียงส่วนปลาย คนหน้าหล่อขบฟันแน่นก่อนจะโน้มตัวไปกดจูบหนักๆที่ริมฝีปากอิ่มน้ำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของอีกคน เขารู้ดีว่าทำไมในคืนนี้อีซองยอลถึงได้ต่อต้านเขามากกว่าปกติ ก็เพราะความต้องการที่มากเกินไปของเขาไม่ใช่หรือไงที่ทำให้มยองซูไม่อาจทนตระเตรียมร่างกายของซองยอลให้พร้อมมากกว่านี้ได้

“อะ อ๊า..” เสียงครางหวานหูดังขึ้นในทันทีที่คิมมยองซูสามารถสอดกายเข้าไปซุกซบอยู่ภายในตัวของอีซองยอลได้สำเร็จ ความคับแน่นนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าหล่อจำต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากในขณะที่ยันตัวขึ้นค้ำอยู่เหนือร่างของอีซองยอลพร้อมกับเริ่มขยับกายเข้าออกในจังหวะเนิบนาบ

ใบหน้าหวานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์หวามนั้นถูกดวงตาคู่นี้จดจำเอาไว้ทั้งหมด ยิ่งมองยิ่งหลงใหล อีกทั้งสัมผัสเบื้องล่างนั่นอีก ไม่ว่าคิมมยองซูจะขยับในจังหวะที่เนิบช้าค่อยๆเป็นค่อยๆไป หรือเร่งเร้าจนอีกฝ่ายแทบขาดใจ แต่อีซองยอลกลับรองรับความต้องการนั้นของเขาได้เป็นอย่างดี คล้ายกับเป็นการบอกว่าร่างกายของเราสองคนนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่หรอกสิ่งที่มยองซูต้องการไม่ใช่แค่การมีเซ็กส์กับอีซองยอลเป็นครั้งคราวแบบนี้

“นาย...รู้สึกยังไงกับฉันกันแน่ อีซองยอล” คิมมยองซูถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหอบหนัก พร้อมกับฝากฝังกายด้วยจังหวะอันหนักหน่วงเข้าสู่ร่างกายของอีซองยอลที่อ้าปากขึ้นหอบหายใจและส่งเสียงครางด้วยความหวามไหวในบางจังหวะ ก่อนที่คนหน้าหวานจะกรีดร้องออกมาเมื่อปลายทางของตนเองมาถึงในที่สุด

“รู้สึกยังไงแล้วมันสำคัญตรงไหนเหรอ” ซองยอลถามกลับในตอนที่อีกฝ่ายหยัดกายขึ้นเพื่อรับสัมผัสหนักๆของคนด้านบนที่กำลังจะปลดปล่อยออกมาเช่นเดียวกัน

คำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบในทันทีที่คิมมยองซูเดินทางไปจนถึงปลายทาง หากแต่คำตอบของคิมมยองซูนั้นกลับดังขึ้นในตอนที่อีกฝ่ายถอนกายออกไปจากตัวของอีซองยอล ทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง รั้งร่างของเขาเข้าไปกอดเอาไว้ แล้วจึงเอื้อนเอ่ยคำพูดที่ทำให้หัวใจของอีซองยอลต้องเต้นแรงอย่างต้านทานไม่ไหวออกมา

“สำคัญตรงที่นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันอยากจะตื่นนอนขึ้นมาข้างๆนาย”


There’s nothing I know, I wouldn’t do
Just to get up next to you

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

[SSeries] 1st - Toothbrush {myungyeol}

1st - Toothbrush
Pairing: kimmyungsoo x leesungyeol
Genre: AU, Sexy
Author: khanunys

A/N: เขียนจบแล้วหน้าจะมืด ตอนต่อไปมาสามเดือนหลังจากนี้นะคะ 55555555
สกรีมมิ่งแอท #MY_SSeries นะคะคนดี







Maybe you don’t have to rush,
You could leave a toothbrush at my place.
We don’t need to keep it hush,
You could leave a toothbrush at my place.


ร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังขยับเข้าหากันเพื่อให้ผผิวกายแทบทุกสัดส่วนได้สัมผัสกันอยู่บนเตียงหลังกว้างที่ในตอนนี้ผ้าปูที่นอนกำลังยับยู่ยี่ ริมฝีปากร้อนจัดทั้งคู่ประกบเข้าหากันเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วพวกเขาก็มิอาจนับ หากแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารับรู้ได้ก็คือ ยิ่งริมฝีปากได้สัมผัสกันบ่อยมากเท่าไร ความร้อนภายในการก็พุ่งขึ้นสูงมากเท่านั้น

“อืม” เสียงครางแผ่วเบาดังมาจากชายหนุ่มหน้าหวานที่นอนทอดกายอยู่เบื้องล่าง เรียวขายาวทั้งสองข้างนั้นแยกออกกว้างจนมากพอที่คนด้านบนจะสามารถสอดตัวเข้ามาอยู่ตรงหว่างขา เพื่อแนบร่างกายท่อนล่างให้แนบชิดกับคนด้านใต้เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ไปในตัว

ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ยามใดที่ใครคนหนึ่งผ่อนจังหวะ อีกคนก็พร้อมจะรุกไล่คล้ายจงใจต้อนให้อีกฝ่ายต้องพ่ายแพ้ เสียงดูดกลืนของริมฝีปากดังเคล้าคลอไปกับเสียงหอบหายใจ ก่อนที่ริมฝีปากทั้งสองคู่จะต้องแยกออกจากกันเมื่อคนด้านบนได้เลื่อนมือขึ้นไปสัมผัสที่ต้นขาด้านในของร่างบอบบางที่นอนทอดกายอยู่ด้านล่าง

“ฮื้อ อย่าเพิ่งสิ” คนหน้าหวานพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหอบหายใจหนักเพราะการจูบมาราธอนเมื่อครู่ ซึ่งอีกคนก็ดูเหมือนจะไม่สนใจ เมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งกางเกงชั้นในตัวน้อยให้หลุดพ้นออกจากเรือนร่างอันแสนงดงามที่ยั่วตายั่วใจให้เขารู้สึกอยากลิ้มลองจนถึงที่สุด

“ไม่เอาน่า ไม่อยากรอแล้วนะ” ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาว่าพลางเคลื่อนใบหน้าเข้ามาเพื่อจะกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มแดงอีกครั้ง หากแต่เจ้าของมันกลับหัวเราะเบาๆแล้วยกมือขึ้นมาดันแผ่นอกของอีกฝ่ายเอาไว้เสียก่อน

“บอกชื่อมาก่อนสิ ถ้าครางผิดชื่อขึ้นมาจะหงุดหงิดเอานะ” คำพูดของคนหน้าหวานเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนด้านบนได้โดยง่าย ก่อนที่ชายหนุ่มหน้าหล่อจะฝืนดันร่างลงมาเพื่อบดจูบหนักหน่วงลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกคนพร้อมกับกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู

“ไม่ต้องบอกหรอกมั้ง ฉันคิดว่าซองยอลน่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าฉันชื่ออะไร” เมื่อคนด้านบนตอบกลับมา ชายหนุ่มหน้าหวานเจ้าของชื่อซองยอลก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาไล้ปลายนิ้วไปตามท่อนแขนแข็งแรงของคนที่คร่อมทับอยู่ด้านบนพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนให้ จนอีกฝ่ายรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งตัว

“แล้วจะให้เรียกว่าแอลหรือมยองซูดีล่ะ” เจ้าของชื่อยิ้มก่อนจะตอบออกมาในตอนที่ริมฝีปากแทบจะแนบชิดกัน

“สำหรับซองยอล เรียกฉันว่ามยองซูน่าจะดีกว่า” เมื่อพูดจบริมฝีปากก็แนบชิดกันในทันที คิมมยองซูดูดดึงริมฝีปากของคนด้านใต้อย่างหลงใหลและไม่สนใจเลยสักนิดว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายจะบวมแดงสักเท่าไร ในขณะที่มือทั้งสองข้างก็เลื่อนลงด้านล่างเพื่อลูบไล้ผิดนวลเนียนของอีกฝ่าย ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายของซองยอลที่ในตอนนี้กำลังตื่นตัวเต็มที่อยู่ในกำมือของเขา

คนหน้าหล่อรูดรั้งแก่นกายสีหวานอย่างหยอกเย้า เร็วบ้างช้าบ้างสลับกันไป จนซองยอลจำเป็นต้องเบือนหน้าหนีให้ริมฝีปากหลุดออกจากกันแล้วกัดฟันพูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ

“จะทำต่อหรือให้ฉันลุกขึ้นแต่งตัวแล้วกลับห้องตัวเองไปซะ”

“อย่าเพิ่งโมโหสิ” มยองซูว่าก่อนจะเลื่อนมือของตนเองไปจับเข้าที่บั้นท้ายอวบอิ่ม ลูบไล้และเคล้นคลึงเชิงหยอกล้อจากนั้นจึงเลื่อนมือไปล่วงล้ำช่องทางด้านหลังให้อีซองยอลจำต้องเกร็งตัวขึ้นมาเพื่อรับสัมผัสนั้น เรียวขายาวของคนหน้าหวานแยกออกกว้างเพื่อรองรับสัมผัสของคนที่รุกล้ำเข้ามาอย่างจาบจ้วง ทว่ากลับให้ความรู้สึกอ่อนโยนไปในที

ริมฝีปากอิ่มที่แดงช้ำเผยอออกเพื่อเปล่งเสียงครวญครางยามที่ปลายนิ้วเรียวของคิมมยองซูแตะลงบนจุดไวสัมผัสภายในกาย ความทรมานจากความต้องการกำลังแผดเผาให้อีซองยอลจำต้องเป็นฝ่ายร้องขอราวกับผู้พ่ายแพ้ในสงครามบนเตียงนุ่มนี้อย่างช่วยไม่ได้

“ข-เข้ามาเถอะ” ชายหนุ่มเจ้าของเครื่องหน้าหวานที่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความเย้ายวนกล่าว พร้อมทั้งยกสะโพกมนของตนเองขึ้นไปเบียดกับสะโพกของอีกคนที่แนบชิดไม่ห่าง จนคิมมยองซูต้องกัดฟันแน่นในตอนที่ถอนนิ้วออกจากร่างกายที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนของอีซองยอล

คนหน้าหล่อใช้มือข้างหนึ่งในการแยกขาของอีซองยอลให้อ้าออกกว้าง ในขณะที่อีกมือนั้นเขาใช้ประคองแกนกายที่ร้อนผ่าวทั้งยังรู้สึกปวดเพราะความต้องการให้จ่อไปที่ช่องทางที่เขาจะบุกรุกเข้าไป

สัมผัสแรกที่มยองซูรู้สึกหลังจากที่สอดแกนกายของตนเองเข้าไปได้เพียงส่วนปลายคือความคับแน่นที่ทำให้เขาต้องกัดฟันเอาไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงไปกดจูบหนักๆบนริมฝีปากที่แดงช้ำ พร้อมทั้งเลื่อนมือขึ้นมาลืบไล้ผิวกายเนียนนุ่มให้เรือนกายของเขาได้เข้าไปสัมผัสทุกความรู้สึกภายในได้จนหมด

เสียงหอบหายใจดังก้องไปทั่วห้องในตอนที่คนหน้าหล่อแช่ร่างกายของตนเองเอาไว้ในช่องทางอ่อนนุ่มของคนใต้ร่าง ก่อนที่เขาจะค่อยๆขยับตัวอย่างเนิบนาบแล้วเพิ่งจังหวะไปตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยที่อีซองยอลเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ในคืนนี้ ห้องนอนของเขาที่ปกติแล้วจะเงียบสงัดจนน่าเบื่อ จึงอบอวลไปด้วยเรื่องราวที่ทำให้เขาละความสนใจไปไม่ได้ โดยที่สาเหตุทั้งหมดนั้น มาจากอีซองยอลเพียงคนเดียว




When you’re standing there in your underwear,
And my t-shirt from the night before,
With your messed up hair, and your feet still bare,
Would you mind closing the bed room door?




คิมมยองซูตื่นมาในตอนสายของวันเพื่อที่จะพบว่าพื้นที่ข้างกายของเขามันว่างเปล่าทั้งๆที่ควรจะมีร่างบอบบางของใครบางคนนอนอยู่ข้างๆกัน คนหน้าหล่อถอนหายใจก่อนจะพลิกตัวขึ้นมานอนหงายแล้วยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก พร้อมกับคิดในใจว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วที่เขาสามารถพาซองยอลกลับมาด้วยได้แต่ไม่เคยรั้งอีกฝ่ายให้อยู่ด้วยกันได้เลย

“ตื่นแล้วก็ช่วยลุกขึ้นมาหาแปรงสีฟันให้หน่อยได้ไหม” เสียงหวานที่ติดจะแหบพร่าดังขึ้นจากประตูห้องนอนของเขาจนมยองซูต้องหันไปมองด้วยดวงตาที่ฉายแววประหลาดใจเอาไว้เต็มเปี่ยม คนหน้าหล่อลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มที่คลุมร่างกายเปลี่ยนเปล่าอยู่นั้นเลื่อนลงไปกองอยู่ที่หน้าตัก เผยให้เห็นหุ่นที่สมกับชายชาตรีจนอีซองยอลต้องเบ้ปากอย่างนึกหมั่นไส้

“จะนั่งโชว์หุ่นอีกนานไหม”

“แล้วนายล่ะ แต่งตัวแบบนั้นคิดจะยั่วกันหรือยังไง” คิมมยองซูเอ่ยถามพลางมองตรงไปที่อีซองยอลผู้ซึ่งสวมใส่เพียงแค่เสื้อยืดตัวโคร่งที่มยองซูจำได้วาเขาถอดออกจากตัวของเขาเองเมื่อคืนนี้ อีกทั้งช่วงล่างที่ดูยั่วตายั่วใจนั้นก็มีเพียงแค่อันเดอร์แวร์ตัวเล็กที่แทบไม่ได้ช่วยป้องกันอะไรจากสายตาของเขาเสียเลย

“เช้าแล้วยังจะคิดเรื่องลามกอีกเหรอ ลุกขึ้นมาหาแปรงสีฟันให้ฉันก่อนเร็ว อยากแปรงฟันจะแย่” คนหน้าหวานพูดทั้งๆที่ยังคงยืนกอดอกพิงประตูอยู่เหมือนเดิม จนคิมมยองซูต้องหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ในตอนที่เขาเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักของโต๊ะข้างเตียงที่มีแปรงสีฟันที่เขาซื้อมาไว้เผื่ออีกคนเมื่อนานมาแล้ววางเอาไว้อยู่

“คนบ้าอะไรเก็บแปรงสีฟันไว้ที่โต๊ะข้างเตียง” อีซองยอลบ่นขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่เบา

“แล้วใครกันล่ะที่หนีกลับไปก่อนโดยไม่รอให้เช้าสักที” คิมมยองซูตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเมื่ออีซองยอลยกมือขึ้นบอกว่าตนเองยอมแพ้ เผยให้เห็นต้นขาเรียวขาที่เย้ายวนตาจนคนหน้าหล่ออดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะเอื้อนเอ่ยอย่างยั่วเย้า

“คุณคนสวยครับ รบกวนปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหาผมได้ไหมครับ” อีซองยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากปิดประตูตามที่อีกฝ่ายบอก ทั้งยังเดินเข้าไปหาคิมมยองซูถึงบนเตียง พร้อมกับแถมจูบเบาๆเป็นการต้อนรับเช้าวันใหม่ให้กับอีกฝ่ายอย่างเย้ายวน

“ตอนที่ลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันได้ก็วางแปรงสีฟันทิ้งไว้ในห้องน้ำได้นะ ฉันจะรอให้ซองยอลมาใช้มัน” คิมมยองซูกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะพลิกร่างของคนบนตักให้นอนราบลงบนเตียงนุ่ม แล้วเริ่มทำทุกอย่างตามใจตัวเอง




You could leave a toothbrush at my place, at my place.






end.