วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

[SSeries] 1st - Toothbrush {myungyeol}

1st - Toothbrush
Pairing: kimmyungsoo x leesungyeol
Genre: AU, Sexy
Author: khanunys

A/N: เขียนจบแล้วหน้าจะมืด ตอนต่อไปมาสามเดือนหลังจากนี้นะคะ 55555555
สกรีมมิ่งแอท #MY_SSeries นะคะคนดี







Maybe you don’t have to rush,
You could leave a toothbrush at my place.
We don’t need to keep it hush,
You could leave a toothbrush at my place.


ร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังขยับเข้าหากันเพื่อให้ผผิวกายแทบทุกสัดส่วนได้สัมผัสกันอยู่บนเตียงหลังกว้างที่ในตอนนี้ผ้าปูที่นอนกำลังยับยู่ยี่ ริมฝีปากร้อนจัดทั้งคู่ประกบเข้าหากันเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วพวกเขาก็มิอาจนับ หากแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารับรู้ได้ก็คือ ยิ่งริมฝีปากได้สัมผัสกันบ่อยมากเท่าไร ความร้อนภายในการก็พุ่งขึ้นสูงมากเท่านั้น

“อืม” เสียงครางแผ่วเบาดังมาจากชายหนุ่มหน้าหวานที่นอนทอดกายอยู่เบื้องล่าง เรียวขายาวทั้งสองข้างนั้นแยกออกกว้างจนมากพอที่คนด้านบนจะสามารถสอดตัวเข้ามาอยู่ตรงหว่างขา เพื่อแนบร่างกายท่อนล่างให้แนบชิดกับคนด้านใต้เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ไปในตัว

ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ยามใดที่ใครคนหนึ่งผ่อนจังหวะ อีกคนก็พร้อมจะรุกไล่คล้ายจงใจต้อนให้อีกฝ่ายต้องพ่ายแพ้ เสียงดูดกลืนของริมฝีปากดังเคล้าคลอไปกับเสียงหอบหายใจ ก่อนที่ริมฝีปากทั้งสองคู่จะต้องแยกออกจากกันเมื่อคนด้านบนได้เลื่อนมือขึ้นไปสัมผัสที่ต้นขาด้านในของร่างบอบบางที่นอนทอดกายอยู่ด้านล่าง

“ฮื้อ อย่าเพิ่งสิ” คนหน้าหวานพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหอบหายใจหนักเพราะการจูบมาราธอนเมื่อครู่ ซึ่งอีกคนก็ดูเหมือนจะไม่สนใจ เมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งกางเกงชั้นในตัวน้อยให้หลุดพ้นออกจากเรือนร่างอันแสนงดงามที่ยั่วตายั่วใจให้เขารู้สึกอยากลิ้มลองจนถึงที่สุด

“ไม่เอาน่า ไม่อยากรอแล้วนะ” ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาว่าพลางเคลื่อนใบหน้าเข้ามาเพื่อจะกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มแดงอีกครั้ง หากแต่เจ้าของมันกลับหัวเราะเบาๆแล้วยกมือขึ้นมาดันแผ่นอกของอีกฝ่ายเอาไว้เสียก่อน

“บอกชื่อมาก่อนสิ ถ้าครางผิดชื่อขึ้นมาจะหงุดหงิดเอานะ” คำพูดของคนหน้าหวานเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนด้านบนได้โดยง่าย ก่อนที่ชายหนุ่มหน้าหล่อจะฝืนดันร่างลงมาเพื่อบดจูบหนักหน่วงลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกคนพร้อมกับกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู

“ไม่ต้องบอกหรอกมั้ง ฉันคิดว่าซองยอลน่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าฉันชื่ออะไร” เมื่อคนด้านบนตอบกลับมา ชายหนุ่มหน้าหวานเจ้าของชื่อซองยอลก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาไล้ปลายนิ้วไปตามท่อนแขนแข็งแรงของคนที่คร่อมทับอยู่ด้านบนพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนให้ จนอีกฝ่ายรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งตัว

“แล้วจะให้เรียกว่าแอลหรือมยองซูดีล่ะ” เจ้าของชื่อยิ้มก่อนจะตอบออกมาในตอนที่ริมฝีปากแทบจะแนบชิดกัน

“สำหรับซองยอล เรียกฉันว่ามยองซูน่าจะดีกว่า” เมื่อพูดจบริมฝีปากก็แนบชิดกันในทันที คิมมยองซูดูดดึงริมฝีปากของคนด้านใต้อย่างหลงใหลและไม่สนใจเลยสักนิดว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายจะบวมแดงสักเท่าไร ในขณะที่มือทั้งสองข้างก็เลื่อนลงด้านล่างเพื่อลูบไล้ผิดนวลเนียนของอีกฝ่าย ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายของซองยอลที่ในตอนนี้กำลังตื่นตัวเต็มที่อยู่ในกำมือของเขา

คนหน้าหล่อรูดรั้งแก่นกายสีหวานอย่างหยอกเย้า เร็วบ้างช้าบ้างสลับกันไป จนซองยอลจำเป็นต้องเบือนหน้าหนีให้ริมฝีปากหลุดออกจากกันแล้วกัดฟันพูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ

“จะทำต่อหรือให้ฉันลุกขึ้นแต่งตัวแล้วกลับห้องตัวเองไปซะ”

“อย่าเพิ่งโมโหสิ” มยองซูว่าก่อนจะเลื่อนมือของตนเองไปจับเข้าที่บั้นท้ายอวบอิ่ม ลูบไล้และเคล้นคลึงเชิงหยอกล้อจากนั้นจึงเลื่อนมือไปล่วงล้ำช่องทางด้านหลังให้อีซองยอลจำต้องเกร็งตัวขึ้นมาเพื่อรับสัมผัสนั้น เรียวขายาวของคนหน้าหวานแยกออกกว้างเพื่อรองรับสัมผัสของคนที่รุกล้ำเข้ามาอย่างจาบจ้วง ทว่ากลับให้ความรู้สึกอ่อนโยนไปในที

ริมฝีปากอิ่มที่แดงช้ำเผยอออกเพื่อเปล่งเสียงครวญครางยามที่ปลายนิ้วเรียวของคิมมยองซูแตะลงบนจุดไวสัมผัสภายในกาย ความทรมานจากความต้องการกำลังแผดเผาให้อีซองยอลจำต้องเป็นฝ่ายร้องขอราวกับผู้พ่ายแพ้ในสงครามบนเตียงนุ่มนี้อย่างช่วยไม่ได้

“ข-เข้ามาเถอะ” ชายหนุ่มเจ้าของเครื่องหน้าหวานที่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความเย้ายวนกล่าว พร้อมทั้งยกสะโพกมนของตนเองขึ้นไปเบียดกับสะโพกของอีกคนที่แนบชิดไม่ห่าง จนคิมมยองซูต้องกัดฟันแน่นในตอนที่ถอนนิ้วออกจากร่างกายที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนของอีซองยอล

คนหน้าหล่อใช้มือข้างหนึ่งในการแยกขาของอีซองยอลให้อ้าออกกว้าง ในขณะที่อีกมือนั้นเขาใช้ประคองแกนกายที่ร้อนผ่าวทั้งยังรู้สึกปวดเพราะความต้องการให้จ่อไปที่ช่องทางที่เขาจะบุกรุกเข้าไป

สัมผัสแรกที่มยองซูรู้สึกหลังจากที่สอดแกนกายของตนเองเข้าไปได้เพียงส่วนปลายคือความคับแน่นที่ทำให้เขาต้องกัดฟันเอาไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงไปกดจูบหนักๆบนริมฝีปากที่แดงช้ำ พร้อมทั้งเลื่อนมือขึ้นมาลืบไล้ผิวกายเนียนนุ่มให้เรือนกายของเขาได้เข้าไปสัมผัสทุกความรู้สึกภายในได้จนหมด

เสียงหอบหายใจดังก้องไปทั่วห้องในตอนที่คนหน้าหล่อแช่ร่างกายของตนเองเอาไว้ในช่องทางอ่อนนุ่มของคนใต้ร่าง ก่อนที่เขาจะค่อยๆขยับตัวอย่างเนิบนาบแล้วเพิ่งจังหวะไปตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยที่อีซองยอลเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ในคืนนี้ ห้องนอนของเขาที่ปกติแล้วจะเงียบสงัดจนน่าเบื่อ จึงอบอวลไปด้วยเรื่องราวที่ทำให้เขาละความสนใจไปไม่ได้ โดยที่สาเหตุทั้งหมดนั้น มาจากอีซองยอลเพียงคนเดียว




When you’re standing there in your underwear,
And my t-shirt from the night before,
With your messed up hair, and your feet still bare,
Would you mind closing the bed room door?




คิมมยองซูตื่นมาในตอนสายของวันเพื่อที่จะพบว่าพื้นที่ข้างกายของเขามันว่างเปล่าทั้งๆที่ควรจะมีร่างบอบบางของใครบางคนนอนอยู่ข้างๆกัน คนหน้าหล่อถอนหายใจก่อนจะพลิกตัวขึ้นมานอนหงายแล้วยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก พร้อมกับคิดในใจว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วที่เขาสามารถพาซองยอลกลับมาด้วยได้แต่ไม่เคยรั้งอีกฝ่ายให้อยู่ด้วยกันได้เลย

“ตื่นแล้วก็ช่วยลุกขึ้นมาหาแปรงสีฟันให้หน่อยได้ไหม” เสียงหวานที่ติดจะแหบพร่าดังขึ้นจากประตูห้องนอนของเขาจนมยองซูต้องหันไปมองด้วยดวงตาที่ฉายแววประหลาดใจเอาไว้เต็มเปี่ยม คนหน้าหล่อลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มที่คลุมร่างกายเปลี่ยนเปล่าอยู่นั้นเลื่อนลงไปกองอยู่ที่หน้าตัก เผยให้เห็นหุ่นที่สมกับชายชาตรีจนอีซองยอลต้องเบ้ปากอย่างนึกหมั่นไส้

“จะนั่งโชว์หุ่นอีกนานไหม”

“แล้วนายล่ะ แต่งตัวแบบนั้นคิดจะยั่วกันหรือยังไง” คิมมยองซูเอ่ยถามพลางมองตรงไปที่อีซองยอลผู้ซึ่งสวมใส่เพียงแค่เสื้อยืดตัวโคร่งที่มยองซูจำได้วาเขาถอดออกจากตัวของเขาเองเมื่อคืนนี้ อีกทั้งช่วงล่างที่ดูยั่วตายั่วใจนั้นก็มีเพียงแค่อันเดอร์แวร์ตัวเล็กที่แทบไม่ได้ช่วยป้องกันอะไรจากสายตาของเขาเสียเลย

“เช้าแล้วยังจะคิดเรื่องลามกอีกเหรอ ลุกขึ้นมาหาแปรงสีฟันให้ฉันก่อนเร็ว อยากแปรงฟันจะแย่” คนหน้าหวานพูดทั้งๆที่ยังคงยืนกอดอกพิงประตูอยู่เหมือนเดิม จนคิมมยองซูต้องหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ในตอนที่เขาเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักของโต๊ะข้างเตียงที่มีแปรงสีฟันที่เขาซื้อมาไว้เผื่ออีกคนเมื่อนานมาแล้ววางเอาไว้อยู่

“คนบ้าอะไรเก็บแปรงสีฟันไว้ที่โต๊ะข้างเตียง” อีซองยอลบ่นขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่เบา

“แล้วใครกันล่ะที่หนีกลับไปก่อนโดยไม่รอให้เช้าสักที” คิมมยองซูตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเมื่ออีซองยอลยกมือขึ้นบอกว่าตนเองยอมแพ้ เผยให้เห็นต้นขาเรียวขาที่เย้ายวนตาจนคนหน้าหล่ออดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะเอื้อนเอ่ยอย่างยั่วเย้า

“คุณคนสวยครับ รบกวนปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหาผมได้ไหมครับ” อีซองยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากปิดประตูตามที่อีกฝ่ายบอก ทั้งยังเดินเข้าไปหาคิมมยองซูถึงบนเตียง พร้อมกับแถมจูบเบาๆเป็นการต้อนรับเช้าวันใหม่ให้กับอีกฝ่ายอย่างเย้ายวน

“ตอนที่ลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันได้ก็วางแปรงสีฟันทิ้งไว้ในห้องน้ำได้นะ ฉันจะรอให้ซองยอลมาใช้มัน” คิมมยองซูกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะพลิกร่างของคนบนตักให้นอนราบลงบนเตียงนุ่ม แล้วเริ่มทำทุกอย่างตามใจตัวเอง




You could leave a toothbrush at my place, at my place.






end.

2 ความคิดเห็น:

  1. เขินมากเลย แต่ว่านะวันต่อไปหวังว่าคิมมยองซูจะได้เป็นคนบีบยาสีฟันใส่แปรงสองด้ามรอไว้แปรงด้วยกันกับอีซองยอลในทุกๆเช้า :)

    ตอบลบ
  2. โอ้ยยย ยัยน้องยอล ยัยขี้ยั่ววววว นี่ซองยอลหรือคบเพลิงคะ ทำไมร้อนแรงขนาดนี้ 5555+

    จิงๆไม่ได้อยากแปรงฟันป่ะ แค่มาอ่อยเฉยๆ (./////.)

    แล้วมยองก้อสนองงี้เมื่อไหร่จะได้แปรงฟันน้าาาา

    ตอบลบ