วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

[OS] 太陽と向日葵 (Taiyou to Himawari) ∞ myungyeol

太陽と向日葵
Taiyou to Himawari

Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, One-shot
Rating: PG
Author: khanunys
A\N: 太陽と向日葵 มันแปลว่า "พระอาทิตย์กับดอกทานตะวันค่ะ"
- มันค้างใช่ป่ะ เราเข้าใจนะ แต่เราไม่ค่อยว่างไง เอาไว้มาแก้แล้วจะไปโปรยใหม่น้า
- สกรีมกันไหม สกรีมไปเล้ยที่แท็ก #knysfic 







ข้อความตัวเล็กๆในรูปแปลได้ประมาณเธอก็เหมือนกับพระอาทิตย์ ส่วนดอกทานตะวันก็เปรียบได้กับฉันค่ะ









ฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงค่อยๆเบาบางลงจนหยุดไปในที่สุด หากแต่เม็ดฝนเมื่อครู่นั้นกลับทิ้งหลักฐาน่ามันได้ตกลงมาเป็นแอ่งน้ำเล็กๆน้อยๆเต็มบริเวณไปหมด ชายหนุ่มหน้าหวานเจ้าของร่างสูงโปร่งได้แต่เบะปากออกด้วยความไม่พอใจยามเห็นน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนพื้น


ชายหนุ่มได้แต่ทอดถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ เขาชอบนั่งมองเม็ดฝนที่ตกลงมาและบรรยากาศตอนที่ฝนกำลังตกอยู่ก็จริง หากแต่อีซองยอลคนนี้กลับไม่นึกพิศวาสแอ่งน้ำที่เป็นหลักฐานของฝนที่ตกลงมาเลยแม้แต่นิดเดียว


“ฮือ แม่นมฮะ ซองยอลขอโทษนะ” อีซองยอลพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสร้อย ทั้งยังทำหน้าตาเหมือนคนที่พร้อมจะร้องไห้ไปตามคำที่พูดอีกต่างหาก ชายหนุ่มกำลังจินตนาการถึงแม่นมอันเป็นที่รักของคนยามที่ต้องนั่งทำความสะอาดรองเท้าหนังเทียมคู่โปรดของซองยอล ที่ในตอนนี้โดนน้ำขังทำให้เปรอะเปื้อนไปแล้ว


ถ้าไม่ติดว่ามันจะเสียเวลา อีซองยอลก็จะยอมนั่งรอให้พื้นมันแห้งอยู่หรอก


“คุณหนูซองยอล” เสียงทุ้มนุ่มหูที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นทางด้านหลัง เรียกให้คุณหนูซองยอลต้องหันกลับไปหาเจ้าของเสียงแล้วยกแขนขึ้นโอบรัดรอบเอวสอบของอีกฝ่ายโดยไม่จำเป็นต้องมองหน้า ใบหน้าเนียนใสซุกลงไปที่แผ่นอกกว้างแล้วถูไถไปมา จมูกก็สูดดมเอากลิ่นน้ำหอมเย็นสบายเข้าไปเสียเต็มปอด


“มยองซู ฮือ รองเท้าซองยอลเปื้อนซะแล้ว” เสียงหวานที่อู้อี้อยู่ไม่น้อยเพราะเจ้าของเสียงนั้นไม่ยอมละใบหน้าออกมาจากหน้าอกของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่แสนนิ่งเฉย คิมมยองซูได้แต่อมยิ้มให้กับท่าทางเช่นนั้น มือหนาออกแรงดันร่างของคุณหนูออกแล้วยิ้มให้


“ไม่เป็นไรนะครับ ผมมารับแล้ว” มยองซูบอกพร้อมยกยกมือขึ้นมารอให้ซองยอลวางมือลงไป “เชิญครับคุณหนู”


“ทำไมมยองซูชอบเรียกซองยอลแบบนี้ตลอดเลยล่ะ” คุณหนูอีพูดพร้อมกับอมลงจนแก้มป่อง ก่อนจะวางมือลงบนมือหนาที่ยื่นออกมารอไว้ก่อนแล้ว ที่มุมปากมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ในตอนที่ได้รับความอบอุ่นจากฝ่ามือของอีกคน มือที่ทำให้อีซองยอลรู้สึกอบอุ่นไปพร้อมๆกับรู้สึกว่ามันปลอดภัย


“แล้วจะให้เรียกแบบไหนล่ะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะค่อยๆพาร่างบอบบางของคุณหนูของบ้านเดินลัดเลาะไปตามพื้นที่เปียกน้อยที่สุด


“อืม...” ซองยอลลากเสียงยาวพร้อมๆกับเอานิ้วชี้แตะเข้าที่กลีบปากนุ่มของตนเอง จากนั้นจึงแย้มยิ้มกว้างออกมาเมื่อคิดคำตอบได้ “เรียกซองยอลว่า ที่รัก ได้หรือเปล่า”


“ผมไม่อาจเอื้อมหรอกครับ” มยองซูตอบด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่บนนั้นเช่นเคย มือหนาเอื้อมออกไปเปิดประตูรถยนต์คันหรูออกเพื่อให้คุณหนูซองยอลเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง หากแต่คนหน้าหวานกับส่ายหน้าไปมาแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่งอยู่ด้านในโดยที่มยองซูไม่ทันจะได้เอ่ยห้าม คนหน้าหวานถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วเดินไปขึ้นรถในฝั่งคนขับบ้าง “คุณหนูกำลังจะทำให้ผมโดนคุณท่านดุนะครับ”


“ถ้าคุณพ่อดุมยองซู ซองยอลจะตีคุณพ่อให้มยองซูเอง”


“คุณหนูไม่ควรจะทำแบบนั้นนะครับ” มยองซูเอ่ยปราม “ไม่ว่ายังไงผมกับคุณหนู เราก็เป็นได้เพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น”


“แต่ซองยอลรักมยองซู!” คนหน้าหวานร้องบอกเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดของคนที่กำลังทำหน้าที่สารถีอยู่ในตอนนี้ “ซองยอลเคยบอกมยองซูไปแล้วว่ารักมยองซู ทำไมมยองซูถึงชอบพูดจาทำร้ายจิตใจของซองยอลอยู่เรื่อย”


“ผม...” คนหน้าหล่อพูดไม่ออก มือที่จับพวงมาลัยอยู่กำแน่นจนปลายนิ้วเริ่มชา ก่อนที่คิมมยองซูจะตัดสินใจหักรถเข้าหลบที่ข้างทาง


“มยองซู...” เสียงเรียกหวานหูที่ดังขึ้นพร้อมๆกับสัมผัสจากมือนุ่มที่แตะลงข้างแก้มของเขาทำให้มยองซูต้องปิดเปลือกตาลงเพื่อซึมซับสัมผัสนี้เอาไว้ให้นานที่สุด “มยองซู เราไปเที่ยวกันดีไหม”


“เอ๋?”


“ไปในที่ที่มีแค่เราสองคน มีแค่อีซองยอลและคิมมยองซู ไม่ใช่คุณหนูซองยอลกับพ่อบ้านคิมมยองซู” อีซองยอลพูดพร้อมกับกดยิ้มเล็กๆที่มุมปาก “ไปด้วยกันไหม”


คิมมยองซูถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบ้าง


“ครับ





太陽と向日葵





สายลมเย็นสดชื่อที่พัดกระทบกับใบหน้าทำให้ซองยอลต้องคลี่ยิ้มกว้างออกมา คนหน้าหวานอ้าแขนออกราวกับจะโอบกอดลมที่พัดเข้าใส่ ก่อนที่เอวบางจะถูกโอบกอดเอาไว้ด้วยวงแขนแข็งแรงของคนที่เดินตามมาจากด้านหลัง ซองยอลหลับตาลงอย่างผ่อนคลายพร้อมๆกับพิงตัวไปที่คนข้างหลังอย่างสบายใจ


“อยู่ที่นี่ก็ดีเนอะ มยองซู” เสียงนุ่มดังขึ้นหลังจากที่ซองยอลปล่อยให้คนด้านหลังยืนกอดอย่างไม่ต้องสนใจสายตาหรือคำกล่าวว่าของใคร


“ครับ” คำตอบแสนสั้นจากคิมมยองซูทำให้อีซองยอลต้องยู่ปากด้วยความไม่พอใจ คนหน้าหวานพลิกตัวกลับมาประชันหน้ากับคุณพ่อบ้านคนสนิท ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน ใบหน้าเนียนสวยขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายทีละนิดโดยที่มยองซูเองก็ไม่ได้คิดจะหลบไปไหน จนกระทั่งริมฝีปากแตะกันอย่างแผ่วเบา


แผ่นหลังบอบบางถูกโอบกอดเอาไว้แนบแน่น พร้อมๆกับคิมมยองซูที่แนบจูบลงมาอย่างอ่อนหวาน หัวใจทั้งสองดวงเต้นด้วยจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นไปพร้อมๆกัน ก่อนที่มยองซูจะถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง


“ซองยอล...” เสียงเรียกชื่อของเขาที่ไม่มีคำว่า คุณหนู นำหน้าทำให้หัวใจของอีซองยอลเต้นแรง แก้มขาวปรากฏริ้วสีแดงขึ้นมาเพราะความเขินอายจนถูกคนเรียกกดจูบหนักๆลงไปบนแก้มเนียนนั้นอย่างนึกเอ็นดู “ซองยอล...ซองยอลน่ะเป็นเหมือนกันดวงตะวันของผมเลยนะ”


“ตะวัน?” คนน่ารักทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ มยองซูยิ้มบางๆก่อนจะพยักหน้า


“ใช่ครับ ซองยอลเป็นเหมือนดวงตะวันที่ส่องแสงให้ชีวิตของผม ส่องแสงให้ผมเห็นเส้นทางที่จะก้าวเดินต่อไป” มือเรียวสวยถูกกุมเอาไว้จนซองยอลสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่มาจากคนตรงหน้า ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของมยองซูที่กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นเดียวกัน “ผมน่ะ รักซองยอลตั้งตอนที่เรายังเป็นเพื่อนเล่นกันในตอนเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นผมก็รู้ว่าความรักของเรามันไม่มีทางเป็นไปได้”


“มยองซู...” ยังไม่ทันที่ซองยอลจะได้พูดจบประโยค คิมมยองซูก็ยื่นมือมาปิดปากเขาเอาไว้เสียก่อน


“ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็ยังรักซองยอล ยังอยากเห็นซองยอลอยู่ในสายตาเสมอ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมยองซู “ความรักของผมมันก็เหมือนกันความรักของดอกทานตะวันที่ให้กับพระอาทิตย์


“แต่ซองยอลก็รักมยองซูนะ” คนหน้าหวานเอ่ยแย้ง “มยองซูไม่ได้รักซองยอลแค่ข้างเดียว แต่เราทั้งสองคนรักกัน”


“ผมรู้” มยองซูตอบรับ “แต่ในตอนที่กลับไป ผมคือพ่อบ้าน และซองยอลก็คือคุณหนู ....เราสองคนก็เหมือนกับเส้นขนานที่ไม่มีทางจะรักกันได้เลย”



เพราะฉะนั้นคิมมยองซูถึงได้เลือกที่จะพูดความรู้สึกของเขาออกไป ความรักที่มั่นคงให้กับอีซองยอลคนเดียวมาเสมอนั้นไม่ต่างอะไรจากความรักของดอกทานตะวันที่เฝ้ามองเพียงดวงตะวันเลยแม้แต่น้อย เป็นเหมือนกับเส้นขนานที่ทำได้เพียงเคียงข้างกันแต่ไม่อาจบรรจบกันได้ตลอดกาล



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น