太陽と向日葵
Taiyou to Himawari
Taiyou to Himawari
Pairing: Kimmyungsoo x Leesungyeol
Genre: AU, One-shot
Rating: PG
Author: khanunys
A\N: - 太陽と向日葵 มันแปลว่า "พระอาทิตย์กับดอกทานตะวันค่ะ"
- มันค้างใช่ป่ะ เราเข้าใจนะ แต่เราไม่ค่อยว่างไง เอาไว้มาแก้แล้วจะไปโปรยใหม่น้า
- สกรีมกันไหม สกรีมไปเล้ยที่แท็ก #knysfic
ข้อความตัวเล็กๆในรูปแปลได้ประมาณเธอก็เหมือนกับพระอาทิตย์ ส่วนดอกทานตะวันก็เปรียบได้กับฉันค่ะ
- มันค้างใช่ป่ะ เราเข้าใจนะ แต่เราไม่ค่อยว่างไง เอาไว้มาแก้แล้วจะไปโปรยใหม่น้า
- สกรีมกันไหม สกรีมไปเล้ยที่แท็ก #knysfic
ฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงค่อยๆเบาบางลงจนหยุดไปในที่สุด
หากแต่เม็ดฝนเมื่อครู่นั้นกลับทิ้งหลักฐาน่ามันได้ตกลงมาเป็นแอ่งน้ำเล็กๆน้อยๆเต็มบริเวณไปหมด
ชายหนุ่มหน้าหวานเจ้าของร่างสูงโปร่งได้แต่เบะปากออกด้วยความไม่พอใจยามเห็นน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนพื้น
ชายหนุ่มได้แต่ทอดถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ
เขาชอบนั่งมองเม็ดฝนที่ตกลงมาและบรรยากาศตอนที่ฝนกำลังตกอยู่ก็จริง
หากแต่อีซองยอลคนนี้กลับไม่นึกพิศวาสแอ่งน้ำที่เป็นหลักฐานของฝนที่ตกลงมาเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฮือ
แม่นมฮะ ซองยอลขอโทษนะ” อีซองยอลพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสร้อย
ทั้งยังทำหน้าตาเหมือนคนที่พร้อมจะร้องไห้ไปตามคำที่พูดอีกต่างหาก
ชายหนุ่มกำลังจินตนาการถึงแม่นมอันเป็นที่รักของคนยามที่ต้องนั่งทำความสะอาดรองเท้าหนังเทียมคู่โปรดของซองยอล
ที่ในตอนนี้โดนน้ำขังทำให้เปรอะเปื้อนไปแล้ว
ถ้าไม่ติดว่ามันจะเสียเวลา
อีซองยอลก็จะยอมนั่งรอให้พื้นมันแห้งอยู่หรอก
“คุณหนูซองยอล”
เสียงทุ้มนุ่มหูที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นทางด้านหลัง
เรียกให้คุณหนูซองยอลต้องหันกลับไปหาเจ้าของเสียงแล้วยกแขนขึ้นโอบรัดรอบเอวสอบของอีกฝ่ายโดยไม่จำเป็นต้องมองหน้า
ใบหน้าเนียนใสซุกลงไปที่แผ่นอกกว้างแล้วถูไถไปมา
จมูกก็สูดดมเอากลิ่นน้ำหอมเย็นสบายเข้าไปเสียเต็มปอด
“มยองซู
ฮือ รองเท้าซองยอลเปื้อนซะแล้ว”
เสียงหวานที่อู้อี้อยู่ไม่น้อยเพราะเจ้าของเสียงนั้นไม่ยอมละใบหน้าออกมาจากหน้าอกของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่แสนนิ่งเฉย
คิมมยองซูได้แต่อมยิ้มให้กับท่าทางเช่นนั้น
มือหนาออกแรงดันร่างของคุณหนูออกแล้วยิ้มให้
“ไม่เป็นไรนะครับ
ผมมารับแล้ว” มยองซูบอกพร้อมยกยกมือขึ้นมารอให้ซองยอลวางมือลงไป “เชิญครับคุณหนู”
“ทำไมมยองซูชอบเรียกซองยอลแบบนี้ตลอดเลยล่ะ”
คุณหนูอีพูดพร้อมกับอมลงจนแก้มป่อง ก่อนจะวางมือลงบนมือหนาที่ยื่นออกมารอไว้ก่อนแล้ว
ที่มุมปากมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ในตอนที่ได้รับความอบอุ่นจากฝ่ามือของอีกคน
มือที่ทำให้อีซองยอลรู้สึกอบอุ่นไปพร้อมๆกับรู้สึกว่ามันปลอดภัย
“แล้วจะให้เรียกแบบไหนล่ะครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะค่อยๆพาร่างบอบบางของคุณหนูของบ้านเดินลัดเลาะไปตามพื้นที่เปียกน้อยที่สุด
“อืม...”
ซองยอลลากเสียงยาวพร้อมๆกับเอานิ้วชี้แตะเข้าที่กลีบปากนุ่มของตนเอง
จากนั้นจึงแย้มยิ้มกว้างออกมาเมื่อคิดคำตอบได้ “เรียกซองยอลว่า ‘ที่รัก’ ได้หรือเปล่า”
“ผมไม่อาจเอื้อมหรอกครับ”
มยองซูตอบด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่บนนั้นเช่นเคย
มือหนาเอื้อมออกไปเปิดประตูรถยนต์คันหรูออกเพื่อให้คุณหนูซองยอลเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง
หากแต่คนหน้าหวานกับส่ายหน้าไปมาแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่งอยู่ด้านในโดยที่มยองซูไม่ทันจะได้เอ่ยห้าม
คนหน้าหวานถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วเดินไปขึ้นรถในฝั่งคนขับบ้าง
“คุณหนูกำลังจะทำให้ผมโดนคุณท่านดุนะครับ”
“ถ้าคุณพ่อดุมยองซู
ซองยอลจะตีคุณพ่อให้มยองซูเอง”
“คุณหนูไม่ควรจะทำแบบนั้นนะครับ”
มยองซูเอ่ยปราม “ไม่ว่ายังไงผมกับคุณหนู
เราก็เป็นได้เพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น”
“แต่ซองยอลรักมยองซู!”
คนหน้าหวานร้องบอกเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดของคนที่กำลังทำหน้าที่สารถีอยู่ในตอนนี้
“ซองยอลเคยบอกมยองซูไปแล้วว่ารักมยองซู
ทำไมมยองซูถึงชอบพูดจาทำร้ายจิตใจของซองยอลอยู่เรื่อย”
“ผม...”
คนหน้าหล่อพูดไม่ออก มือที่จับพวงมาลัยอยู่กำแน่นจนปลายนิ้วเริ่มชา ก่อนที่คิมมยองซูจะตัดสินใจหักรถเข้าหลบที่ข้างทาง
“มยองซู...”
เสียงเรียกหวานหูที่ดังขึ้นพร้อมๆกับสัมผัสจากมือนุ่มที่แตะลงข้างแก้มของเขาทำให้มยองซูต้องปิดเปลือกตาลงเพื่อซึมซับสัมผัสนี้เอาไว้ให้นานที่สุด
“มยองซู เราไปเที่ยวกันดีไหม”
“เอ๋?”
“ไปในที่ที่มีแค่เราสองคน
มีแค่อีซองยอลและคิมมยองซู ไม่ใช่คุณหนูซองยอลกับพ่อบ้านคิมมยองซู”
อีซองยอลพูดพร้อมกับกดยิ้มเล็กๆที่มุมปาก “ไปด้วยกันไหม”
คิมมยองซูถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบ้าง
“ครับ
太陽と向日葵
สายลมเย็นสดชื่อที่พัดกระทบกับใบหน้าทำให้ซองยอลต้องคลี่ยิ้มกว้างออกมา
คนหน้าหวานอ้าแขนออกราวกับจะโอบกอดลมที่พัดเข้าใส่
ก่อนที่เอวบางจะถูกโอบกอดเอาไว้ด้วยวงแขนแข็งแรงของคนที่เดินตามมาจากด้านหลัง
ซองยอลหลับตาลงอย่างผ่อนคลายพร้อมๆกับพิงตัวไปที่คนข้างหลังอย่างสบายใจ
“อยู่ที่นี่ก็ดีเนอะ
มยองซู” เสียงนุ่มดังขึ้นหลังจากที่ซองยอลปล่อยให้คนด้านหลังยืนกอดอย่างไม่ต้องสนใจสายตาหรือคำกล่าวว่าของใคร
“ครับ”
คำตอบแสนสั้นจากคิมมยองซูทำให้อีซองยอลต้องยู่ปากด้วยความไม่พอใจ
คนหน้าหวานพลิกตัวกลับมาประชันหน้ากับคุณพ่อบ้านคนสนิท
ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน
ใบหน้าเนียนสวยขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายทีละนิดโดยที่มยองซูเองก็ไม่ได้คิดจะหลบไปไหน
จนกระทั่งริมฝีปากแตะกันอย่างแผ่วเบา
แผ่นหลังบอบบางถูกโอบกอดเอาไว้แนบแน่น
พร้อมๆกับคิมมยองซูที่แนบจูบลงมาอย่างอ่อนหวาน
หัวใจทั้งสองดวงเต้นด้วยจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นไปพร้อมๆกัน
ก่อนที่มยองซูจะถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
“ซองยอล...”
เสียงเรียกชื่อของเขาที่ไม่มีคำว่า ‘คุณหนู’ นำหน้าทำให้หัวใจของอีซองยอลเต้นแรง
แก้มขาวปรากฏริ้วสีแดงขึ้นมาเพราะความเขินอายจนถูกคนเรียกกดจูบหนักๆลงไปบนแก้มเนียนนั้นอย่างนึกเอ็นดู
“ซองยอล...ซองยอลน่ะเป็นเหมือนกันดวงตะวันของผมเลยนะ”
“ตะวัน?”
คนน่ารักทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ มยองซูยิ้มบางๆก่อนจะพยักหน้า
“ใช่ครับ
ซองยอลเป็นเหมือนดวงตะวันที่ส่องแสงให้ชีวิตของผม
ส่องแสงให้ผมเห็นเส้นทางที่จะก้าวเดินต่อไป”
มือเรียวสวยถูกกุมเอาไว้จนซองยอลสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่มาจากคนตรงหน้า
ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของมยองซูที่กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นเดียวกัน
“ผมน่ะ รักซองยอลตั้งตอนที่เรายังเป็นเพื่อนเล่นกันในตอนเด็ก
แต่เมื่อโตขึ้นผมก็รู้ว่าความรักของเรามันไม่มีทางเป็นไปได้”
“มยองซู...”
ยังไม่ทันที่ซองยอลจะได้พูดจบประโยค คิมมยองซูก็ยื่นมือมาปิดปากเขาเอาไว้เสียก่อน
“ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้
แต่ผมก็ยังรักซองยอล ยังอยากเห็นซองยอลอยู่ในสายตาเสมอ”
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมยองซู
“ความรักของผมมันก็เหมือนกันความรักของดอกทานตะวันที่ให้กับพระอาทิตย์”
“แต่ซองยอลก็รักมยองซูนะ”
คนหน้าหวานเอ่ยแย้ง “มยองซูไม่ได้รักซองยอลแค่ข้างเดียว แต่เราทั้งสองคนรักกัน”
“ผมรู้”
มยองซูตอบรับ “แต่ในตอนที่กลับไป ผมคือพ่อบ้าน และซองยอลก็คือคุณหนู
....เราสองคนก็เหมือนกับเส้นขนานที่ไม่มีทางจะรักกันได้เลย”
เพราะฉะนั้นคิมมยองซูถึงได้เลือกที่จะพูดความรู้สึกของเขาออกไป
ความรักที่มั่นคงให้กับอีซองยอลคนเดียวมาเสมอนั้นไม่ต่างอะไรจากความรักของดอกทานตะวันที่เฝ้ามองเพียงดวงตะวันเลยแม้แต่น้อย
เป็นเหมือนกับเส้นขนานที่ทำได้เพียงเคียงข้างกันแต่ไม่อาจบรรจบกันได้ตลอดกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น